หอการค้าฯ จี้ คลัง-แบงก์ชาติ ดูแลค่าเงินให้ภาคธุรกิจแข่งขันได้ ก่อนกระทบเป็นลูกโซ่ฉุดGDP ทำโอนเงินหมื่นรัฐบาลไม่เห็นผล
นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานกรรมการ คนที่ 1 หอการค้าไทยและ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ค่าเงินบาทที่แข็งค่ามากขึ้น 10 % อย่างรวดเร็วและรุนแรงในระยะสั้น ซึ่งปัจจุบันมีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 33.00 บาท ส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออก และภาคธุรกิจท่องเที่ยวและบริการ เมื่อเงินบาทแข็งค่าขึ้น
ค่าใช้จ่ายสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติก็จะสูงขึ้นตาม ทำให้การท่องเที่ยวไทยกลายเป็นจุดหมายที่มีราคาสูง และนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาประเทศไทยจะจับจ่ายใช้สอยน้อยลง เพราะรู้สึกว่าสินค้าและบริการแพงขึ้นกว่าปกติ และอาจจะเลือกไปยังประเทศที่มีค่าเงินอ่อนกว่าและคุ้มค่ามากกว่า
โดยค่าเงินบาทแข็งค่าเฉลี่ย 1% ต่อปี กระทบรายได้ผู้ประกอบการในภาคการส่งออกประมาณ 1 แสนล้านบาทต่อปี อาจมีผลกระทบต่อรายได้ผู้ส่งออก 1 แสนล้านบาทต่อปี หรือคิดเป็นกว่า0.5% ของ GDP ปกติ ส่งผลทำให้การโอนเงินของรัฐบาลให้กับกลุ่มเปราะบางตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสสุดท้ายไม่เห็นผล เนื่องจากผลกระทบจากการ สูญเสียรายได้ทั้งในส่วนของภาคส่งออกและภาคการท่องเที่ยวประมาณ 1.3 แสนล้านบาท ฉุดการเติบโตของเศรษฐกิจแต่ยังคงประมาณการทั้งปีเติบโตได้ 2.6-2.8%
หอการค้าฯ จึงขอให้ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ กระทรวงการคลัง กำกับดูแลค่าเงินบาทให้มีเสถียรภาพ ไม่ผันผวนอย่างรุนแรงจนเกินไป และดูแลค่าเงินบาทให้เหมาะสมกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจทั้งภายในและต่างประเทศ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews