Home
|
ข่าว

“พิชัย” ย้ำไม่อยากให้มองขัดแย้ง “ผู้ว่าแบงค์ชาติ”

Featured Image
“พิชัย” ย้ำไม่อยากให้มองขัดแย้ง “ผู้ว่าแบงค์ชาติ” แต่ควรรู้หน้าที่ เพราะค่าเงินสำคัญหากส่งออกได้รับผลกระทบก็ต้องรับผิดชอบ

 

 

 

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ตอบคำถามสื่อมวลชนเกี่ยวกับสถานการณ์ค่าเงินบาทที่แข็งค่าซึ่งภาคเอกชน ต้องการให้รัฐเข้าไปช่วยเหลือ โดยย้ำว่า ค่าเงินบาทถือเป็นเรื่องที่สำคัญต่อการส่งออก มากกระทรวงพาณิชย์ทำงานกันหนัก เราวิ่งตะลอนทำงานทั้งวันทั้งคืนไปหลายที่เพื่อจะไปขายของ ซึ่งปกติขายของก็ยากอยู่แล้ว คู่แข่งก็มากอยู่แล้วยังต้องเจอค่าบาทที่แข็ง เหมือนเป็นการเตะสกัดเรา ทำให้ของเราแพงขึ้นของแพงขึ้นก็ขายยากขึ้นเป็นหลักคิดง่ายๆ

 

 

ไม่อยากให้คนคิดว่าเป็นการแบ่งข้าง กระทรวงพาณิชย์ รัฐบาล หรือแบงค์ชาติ วันนี้ขอเอาประโยชน์ของประเทศหากค่าเงินบาทอ่อนลงส่งออกได้มากขึ้นนั่นเป็นสิ่งที่เราต้องการ ต้องการให้คนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นขายของได้มากขึ้น เกษตรกรก็ได้รับผลกระทบจากค่าบาทแข็ง ขายข้าวได้ราคาที่ถูกลง เพราะเงินดอลลาร์เมื่อแลกเป็นเงินบาท ก็จะได้น้อยลง ค่าบาทที่อ่อนลงจะสามารถจ้างงานได้เพิ่ม เพิ่มค่าแรงมากขึ้นได้

 

 

และที่ตนเคยถามว่าผู้ว่าแบงค์ชาติจบอะไรมาไม่ใช่ไม่รู้แต่ต้องการจะสื่อสารว่าหากจบมาแล้วเรื่องแค่นี้ไม่รู้จะเป็นไปได้อย่างไรก็เหมือนกับที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาเคยถามตนว่าจบอะไรมาเหมือนกันตนก็พูดในหลักการ และควรจะเป็นคนที่มีความเข้าใจในเรื่องนี้มากที่สุดแต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมท่านถึงไม่เข้าใจ เพราะทั้งโลกก็อยากเห็นค่าเงินที่อ่อน ที่ผ่านมาทั้งอาเซียน ค่าเงินอ่อนหมดเราแข็งอยู่คนเดียวเราแข็งกว่าอาเซียนเยอะมาก เราแข็งขึ้นมา 6-7% ถือว่ามีความผันผวน ท่านบริหารอยู่ 4 ปี GDP ไม่โตขึ้นมาเลย ตัวเลขไม่มีโกหก

 

 

ซึ่งตนแม่นตัวเลขและอยากเห็นการเติบโตของเศรษฐกิจ โดยส่วนตัวไม่ได้มีปัญหากับผู้ว่าแบงค์ชาติ แต่ควรทำให้ค่าเงินบาทอ่อน เป็นสิ่งที่ตนต้องการหากท่านบอกว่าไม่ลดดอกเบี้ยเพราะกลัวคนจะกู้เงินเยอะไม่เกี่ยวกัน กลัว NPL กลัวหนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้นเชื่อว่าแบงค์ชาติก็มีระบบควบคุมหนี้ครัวเรือนอยู่แล้ว ท่านกำลังเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า ย้ำว่าไม่ได้อยากมาทะเลาะ เพียงแต่อยากเห็นค่าเงินบาทที่อ่อน และเศรษฐกิจให้ไปด้วยดี

 

 

การส่งออกเดือนล่าสุดเราโตที่ 7% เดือนก่อนหน้าโต 15% หากค่าเงินบาทยังแข็งอยู่เช่นนี้การส่งออกของเราจะลดลงไปเรื่อยๆ ซึ่งท่านต้องรับผิดชอบ เพราะกระทรวงพาณิชย์เราทำงานเต็มที่แล้วเราขายของกันเต็มที่แล้ว ท่านก็ควรดูค่าเงินบาทที่เหมาะสมให้เรา

 

 

อันนี้เราควบคุมไม่ได้ อิสระของแบงค์ชาติก็เพื่อให้ประเทศเจริญ ไม่ใช่อิสระเพื่อขวางทุกอย่าง อิสระถ้าหากประเทศเจริญดีเติบโต 7-8% และเกิดโอเวอร์ กลัวเงินเฟ้อจะมากปัญหาจะมีเยอะค่อยออกมาขวางออกมาสกัด เพื่อไม่ให้เศรษฐกิจโอเวอร์ แต่เวลานี้เศรษฐกิจโตเพียง 1.9% ตลอดที่ผ่านมา 10 ปีเศรษฐกิจแย่ท่านบอกว่า ไม่ได้สนใจไล่ล่า GDP คิดว่าท่านกำลังเข้าใจผิด หากไม่สนใจ GDP เมื่อไหร่ประเทศจะเป็นประเทศที่พัฒนา

 

 

อย่างไรก็ตามพร้อมที่จะมีการหารือกับทางแบงค์ชาติ ไม่ได้อยากให้ใครมองว่าเกิดความแตกแยกระหว่างรัฐบาลกับแบงค์ชาติอยากให้มองถึงประโยชน์ของประชาชนและประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลักประเทศที่มีค่าเงินอ่อนเจริญทุกประเทศ ยืนยันดูได้จากสถิติ ประเทศที่ค่าเงินแข็งมีปัญหากับการเติบโตมาโดยตลอด เช่น ญี่ปุ่นที่ผ่านมา

 

 

โดยตามข่าวเห็นว่าผู้ว่าแบงค์ชาติจะนัดหารือกับตนเวลานี้ยังไม่ได้รับนัดขอให้มาพร้อมที่จะคุยกันเสมอ จะมาที่กระทรวงพาณิชย์หรือที่ไหนก็ได้ และในหลักการยังเคารพกันเสมออย่าแบ่งฝักแบ่งฝ่ายเพื่อทำให้ประเทศเจริญเพราะหลายประเทศเวลานี้เป็นประเทศรายได้สูงไปแล้วอย่างเช่นมาเลเซีย และจีนกำลังจะเป็นประเทศรายได้สูงภายในไม่กี่ปี โดยหวังขนาด GDP จะสูงกว่าสหรัฐเป็น 2 เท่า แต่ของไทยหากไม่ไล่ล่า GDP อีกหน่อยสปป.ลาว อาจแซงไทยได้ หากเราคิดเช่นนั้น ซึ่งในมุมของตนไม่น่าจะเป็นเช่นนั้น ตามหลักคิดทางเศรษฐศาสตร์ที่สำคัญ GDP ก็ยังเป็นเรื่องที่สำคัญอยู่

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube