รัฐบาล เคาะจ่ายเยียวยาเหตุไฟไหม้รถบัสนักเรียน รายละ 2.39 ล้าน พร้อมตั้ง คกก.ตรวจสอบสภาพรถบัสใช้งานนาน 54 ปีปูพรมทั่วประเทศ
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะกรรมการกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบ
จากเหตุรถบัสทัศนศึกษาของคณะครูและเด็กนักเรียนเกิดเหตุเพลิงไหม้ โดยบอกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้น่าสะเทือนใจ ซึ่งนายกรัฐมนตรีมีความห่วงใย รู้สึกเศร้าสลดจากเหตุการณ์ และหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง ก็จะไปดูแล
ในส่วนของกระทรวงคมนาคม จะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 1 ชุด เพื่อดูสาเหตุว่าเกิดจากอะไร จะมีการป้องกันอย่างไร โดยจะเชิญวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เข้ามาร่วมตรวจสอบโครงสร้างของรถที่บรรทุกผู้โดยสารจำนวนเท่านี้ ควรจะปรับปรุงอย่างไร รวมถึงเรื่องทางออกฉุกเฉิน
โดยมีไอเดียจะให้มีเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำก่อนออกออกเดินทาง ว่าหากมีเหตุฉุกเฉิน จะปฏิบัติตัวอย่างไรและช่องทางออกฉุกเฉิน เหมือนกับเครื่องบิน ซึ่งต่อไปจะต้องบังคับให้รถโดยสารสาธารณะ ดำเนินการตามนี้เพื่อลดความรุนแรงลง โดยกระทรวงจะมีมาตรการออกมา
ส่วนรถที่เกิดเหตุมีการดัดแปลงเปลี่ยนเครื่องยนต์ และตัวถังประกอบซึ่งใช้มานานกว่า 54 ปี ต้องมีการตรวจสอบรถบัสโดยสารทั้งประเทศหรือไม่ นายสุริยะ กล่าวว่า คณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมาจะตรวจสอบกระบวนการทั้งหมด ตั้งแต่สภาพรถ จำนวนผู้โดยสาร
ขณะเดียวกันจะครอบคลุมรถทุกประเภท ทั้งรถตู้ รถโดยสาร นอกจากนี้จะตรวจสอบเรื่องการใช้เชื้อเพลิงที่เป็นแก๊สในรถสาธารณะ เพราะเวลาเกิดอุบัติเหตุมักมีความรุนแรง โดยคาดว่าคณะกรรมการจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์
ส่วนการดัดแปลงรถ อาจจะทำให้บริษัทประกันภัยไม่ยอมจ่ายค่าชดเชยสินไหมนั้น นายสุริยะ กล่าวว่า ได้รับรายงานจากกรมการขนส่งทางบก ว่าตามกฎหมายต้องบังคับให้มีการประกันภัยขั้นต่ำ จะจ่ายสูงสุด 5 แสนบาทและ พ.ร.บ.ภาคสมัครใจ อีก 5 แสนบาท รวมทั้งหมด 20 ล้านบาทต่อการเกิดอุบัติเหตุหนึ่งครั้ง และเชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบริษัทประกันภัยจะไม่มาหาสาเหตุที่จะไม่จ่ายค่าประกันภัย เพราะเป็นเรื่องสะเทือนขวัญ
จากนั้น นายสุริยะ กล่าวในที่ประชุมฯ ว่า จะต้องมีการวางมาตรการเพื่อไม่ให้เกิดลักษณะแบบนี้ขึ้นอีก ทุกภาคส่วนต้องพร้อมให้ความร่วมมือและช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ
ซึ่งการประชุมในวันนี้จะมุ่งเน้นการหารือถึงมาตรการเยียวยาของรัฐบาลและหน่วยงานต่างๆ ที่จะให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบทางด้านร่างกายและจิตใจ รวมถึงการใช้ชีวิต ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จะเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้ แต่ยังต้องมีมาตรการช่วยเหลือในด้านอื่นๆ หวังว่าจะสามารถบรรเทาความทุกข์ยากได้อย่างทันท่วงที
พร้อมกันนี้ขอวิงวอนไปยังผู้สื่อข่าวและผู้ที่ต้องการสื่อสารเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ให้ระมัดระวังไม่ให้มีการนำเสนอข้อมูลที่จะกระทบต่อจิตใจผู้ที่เกี่ยวข้อง
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมคณะกรรมการกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี มีมติอนุมัติจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากกรณีนี้
กรณีเสียชีวิต รายละ 1 ล้านบาท
กรณีทุพลภาพ รายละ 700,000 บาท
กรณีบาดเจ็บสาหัส รายละ 200,000 บาท
กรณีบาดเจ็บเล็กน้อย รายละ 100,000 บาท
โดยให้กระทรวงศึกษาธิการ ส่งรายชื่อ และข้อมูลของผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งหมดมายังคณะกรรมการกองทุนฯ เพื่อให้จ่ายได้ภายในสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ สำหรับผู้เสียชีวิตมาจากเหตุการณ์รถบัส ทัศนศึกษา ของคณะครูและนักเรียน โรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆารามเกิดเหตุเพลิงไหม้ จะได้รับเงินเยียวยาทั้งสิ้น รวม 2.39 ล้านบาท โดยเป็นเงินจากกองทุนฯ 1 ล้านบาท จากประกันภัยของบริษัทรถบัส 1 ล้าน กองทุนของกระทรวงยุติ 2 แสนบาท กองทุนกระทรวงศึกษาธิการ 1.8 แสนบาท และกองทุนกับสุดของพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 1 หมื่นบาท
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews