รัฐสภาล่ม!สส.สว.ผวาโควิดเลื่อนถกกม.ประชามติ
“ชวน” สุดยื้อ ประชุมสภา โหวตประชามติ ล่ม โดยไม่ต้องนับองค์ประชุมเหตุสมาชิกกลัวโควิด19 – เลขาฯอ่าน พรฎ.ปิดสมัยประชุม
บรรยากาศการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ในช่วงบ่ายเป็นไปอย่างเงียบเหงา มีสมาชิกอยู่ร่วม ประชุมสภา กันบางตา เกินองค์ประชุมเพียงไม่มาก โดยในมาตรา 50 เรื่องการนับคะแนนเสียงประชามติ ที่เมื่อมีการแสดงตนเป็นองค์ประชุมก่อนลงมติ ปรากฏว่า มีสมาชิกเหลืออยู่แค่ 372 คน เกินองค์ประชุม 366 คน มาแค่ 6 เสียงเท่านั้น
จนนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ที่ทำหน้าที่ประธานการประชุม ต้องคอยกระตุ้นเตือนขอความร่วมมือให้สมาชิกอยู่ในห้องประชุม ขอให้อดทนช่วยกันทำหน้าที่ เพราะเรามาไกลกันแล้ว แต่สถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น ในมาตรา50/1 เรื่อง การนับคะแนนเสียงประชามตินอกราชอาณาจักร เมื่อนายชวน กดออดให้สมาชิกแสดงตนเป็นองค์ประชุม ปรากฏว่า ยังคงมีสมาชิกอยู่กันอย่างบางตา แม้นายชวน ต้องกดออดเรียก 3 รอบ แต่สมาชิกก็ยังไม่ค่อยเข้ามาแสดงตน
จนนายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย หารือว่า หากต้องเลื่อนการประชุมออกไปก่อน จะมีผลทางกฎหมายหรือไม่ สังเกตมาหลายมาตราแล้ว มีสมาชิกอยู่น้อยลง จะเปิดประชุมวิสามัญอีกครั้งได้หรือไม่ ซึ่งนายชวน ชี้แจงว่า จะไม่เปิดประชุมวิสามัญเป็นครั้งที่สาม ถ้าไม่ผ่าน เรื่องก็ค้างต้องไปเปิดประชุมอีกทีสมัยสามัญ เหมือนเราไม่รับผิดชอบ จึงขอให้ทุกคนอดทน ช่วยกันทำหน้าที่ ก่อนจะกดออกเรียก ส.ส. ให้มาแสดงตนเป็นองค์ประชุมครั้งที่ 4 จึงมีสมาชิกมาแสดงตน 377 คน เกินองค์ประชุมมา 11 เสียง
ต่อมาเมื่อพิจารณามาถึงมาตรา 51 เรื่องการประกาศผลการออกเสียงประชามติ นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ส.ว. เสนอขอนับองค์ประชุม โดยการขานชื่อเรียงคน แต่นายชวน ชี้แจงว่า ยังมีสมาชิกเข้า-ออก ห้องประชุม และขอร้องไม่ให้นับองค์ประชุม ขณะที่นายสมชาย แสวงการ ส.ว. กล่าวเสริมว่า เห็นใจการประชุมวันนี้ เพราะมีเรื่องสถานการณ์โควิดเข้ามา ส.ส.หลายคน ไม่สามารถมาประชุมได้ เพราะไปพบคนติดเชื้อโควิด จึงต้องเดินทางไปโรงพยาบาลตรวจหาเชื้อ
แต่ขอให้ระวังเรื่องการเสียบบัตรแทนกันด้วย เพราะไม่อยากเกิดเหตุขึ้น จนมีคนนำไปร้องศาลรัฐธรรมนูญ เรื่องการเสียบบัตรแทนกัน เพราะสังเกตเห็นเสียงตอนแสดงตนเป็นองค์ประชุม กับเสียงตอนลงมติมีผลต่างห่างกันแบบผิดสังเกต เกรงจะมีคนเสียบบัตรแทนกันทำให้นายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล สวนกลับทันทีว่า เรื่องการเสียบบัตรแทนกัน คงไม่มี ขอให้นายสมชาย อย่ามาโยน”ขี้”ให้กัน
ขณะที่ นายชวนได้รีบตัดบทเข้าสู่การประชุมต่อ จนกระทั่งเข้าสู่การพิจารณามาตรา 53 เมื่อมีการแสดงตนเป็นองค์ประชุม มีสมาชิกอยู่แสดงตนแค่ 374 เสียง ทำให้นายชวนตัดสินใจ พักการประชุม 10 นาที เพื่อเรียกวิป 3 ฝ่าย มาหารือกันเพื่อแก้ปัญหาเรื่องจำนวนสมาชิกในห้องประชุม
หลังพักประชุม นายชวน แจ้งว่า การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติในวาระ 2 ยังเหลืออีก 2 หมวด คือหมวด 8 และหมวด 9 ซึ่งหากอภิปรายไม่มากก็จะใช้เวลาไม่นานแต่จากการหารือ หากไปไม่รอดจำนวนสมาชิกไม่ครบ ก็ต้องยอมรับความเป็นจริง ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะปฏิเสธความเป็นจริง และไม่ตำหนิใครเพราะทราบว่าสถานการณ์ไม่ปกติ
ด้านนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.เพื่อไทย กล่าวว่าพอเข้าใจได้ที่บางพรรคไม่มาประชุม เพราะสถานการณ์โควิด แต่คนที่อยู่ ก็ขอเรียกร้องให้เข้ามาร่วมประชุม เพราะกฎหมายฉบับนี้เป็นกฎหมายของรัฐบาล และอยากฝากบอกพี่น้องประชาชนว่าวันนี้ถ้าเดินไปไม่ได้ส่วนหนึ่งมาจากสถานการณ์โควิด ส่วนนายมานพ คีรีภวดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ตนลงมาจากดอย ขอร้องให้ทุกคนกลับเข้าห้องประชุม
จากนั้น นายชวน แจ้งว่า ขอเลื่อนการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประชามติ วาระที่ 2 หมวด 8และ9 ไปพิจารณาต่อในการประชุมครั้งต่อไป เพื่อให้องค์ประชุมสมบูรณ์ และไม่ขอนับองค์ประชุม ทางเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร อ่านพระราชกฤษฎีกาปิดสมัยประชุม และปิดประชุมในเวลา 15.19 น.
ฝ่ายค้านผิดหวัง สว.ไม่แสดงตน ทำประชุมล่ม เตรียมพิจารณาร่าง พรบ.ประชามติต่อเปิดสมัยประชุมเดือนพ.ค
พรรคการเมืองฝ่ายค้าน ร่วมกันแถลงข่าว ภายหลังองค์ประชุมรัฐสภาไม่ครบระหว่างการพิจารณาลงมติให้ความเห็นชอบรายมาตราร่าง พ.ร.บ.ว่าออกเสียงประชามติมาตรา 53 และเหลือไม่ถึง 10 มาตรา ทำให้การประชุมต้องยุติลงและพิจารณาต่อในช่วงเปิดสมัยประชุมเดือนพฤษภาคม
โดยนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.เพื่อไทย กล่าวว่า มีสมาชิกรัฐสภาส่วนหนึ่งอยู่ในบริเวณรัฐสภาแต่ไม่ได้เข้าร่วมประชุม และตั้งข้อสังเกตถึงเจตนาที่จะไม่ให้มีการเดินหน้าการประชุม ในขณะที่ ส.ส.ฝ่ายค้านอยู่ในห้องประชุมพร้อมให้ความเห็นชอบร่างกฎหมายประชามติ ก็จะย้ำว่าฝ่ายค้านรู้สึกผิดหวังที่สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ส่วนมาก ไม่ได้แสดงตนเป็นองค์ประชุมและทำให้การประชุมต้องเลื่อนออกไป พร้อมถามถึงความรับผิดชอบของสมาชิกรัฐสภา
ขณะที่ นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน เพื่อไทย กล่าวว่าร่างกฎหมายประชามติเป็นกฎหมายการปฏิรูปที่เสนอโดยคณะรัฐมนตรี ซึ่งเป็นความรับผิดชอบโดยตรงของฝ่ายรัฐบาลเสียงข้างมาก และมีการขอเปิดประชุมสมัยวิสามัญซึ่งได้เรียกร้อง ให้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนต รีในฐานะผู้สนองพระบรมราชโองการ รับผิดชอบต่อเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งถือเป็นการมิบังควร
ส่วนนายภูมิธรม เวชยชัย ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้าน เรียกร้องให้ ส.ว. แสดงความรับผิดชอบ ขณะที่นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกลตั้งข้อสังเกตว่าส.ว.มีเจตนาเตะถ่วงการพิจารณากฎหมายประชามติ และเป็นการขัดขวางไม่ให้มีการทำประชามติ ถามประชาชนต้องการรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ ซึ่งถือเป็นการผลักการเมืองไปสู่ทางตัน และเชื่อว่าจะมีการชุมนุมขับไล่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และสมาชิกวุฒิสภาในอนาคต
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news