ปชน.ชี้คดีตากใบ วัดความจริงใจรัฐบาล
ปชน.ชี้คดีตากใบ วัดความจริงใจรัฐบาล จี้คืนความยุติธรรมให้กับประชาชน มอง “พิศาล” ลาออกสส.ไม่ได้ส่งผลต่อการดำเนินคดี ไม่ได้ส่งผลต่อการทำหน้าที่ของรัฐ
นายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวถึง กรณีพลเอกพิศาล วัฒนวงษ์คีรี สส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ยื่นลาออกจาก สมาชิกพรรคเพื่อไทย ว่า แม้จะไม่ใช่เรื่องของสภาโดยตรงแต่เป็นเรื่องของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ เรื่องนี้เป็นการวัดความจริงใจของรัฐบาล สืบเนื่องกันมาตลอด 20 ปี ในการนำตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดี เพื่อคืนความยุติธรรมให้กับประชาชนมากน้อยแค่ไหน
ซึ่งการลาออกไม่ได้ส่งผลต่อการดำเนินคดี และการลาออกไม่ได้ส่งผลต่อการทำหน้าที่ของรัฐ ไม่ได้ส่งผลในการทำหน้าที่ประสานขอตัวมาลงโทษ ซึ่งการประชุมคณะกรรมาธิการ การกฎหมายการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชนจะสภาผู้แทนราษฎร ทราบว่าผู้ต้องหา 2 ใน 6 คน หนีออกนอกประเทศ ไปอยู่ประเทศญี่ปุ่นและอังกฤษ ซึ่งมีความสัมพันธ์อันดีกับไทย และ มีกฎหมายการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนจึงอยากเห็นความพยายามมากที่สุด ของรัฐไทยในการนำตัวผู้ถูกดำเนินคดีมาลงโทษ
แต่อย่างไรก็ตาม มองว่าการลาออกของพลเอกพิศาล เป็นความรับผิดชอบเบื้องต้น ซึ่งไม่รู้ว่าเกิดขึ้นจากความจริงใจที่อยากจะแก้ไขปัญหานี้ หรือดำเนินการตามคำแนะนำของใคร ดังนั้นข้อเรียกร้องในฐานะวิปฝ่ายค้าน ขอให้รัฐบาลมีความจริงใจ เพราะคดีตากใบไม่ใช่เรื่องของผู้เสียหายหรือผู้สูญเสียแต่คือความเชื่อมั่นของประชาชนในสามจังหวัดชายแดนใต้ และความเชื่อมั่นของประเทศไทยทั้งหมด ว่าอาชญากรรมโดยรัฐที่รัฐต้องรับผิดชอบ ไม่ใช่เพียงบุคคลใดบุคคลหนึ่งหรือรัฐบาลใดรัฐบาลหนึ่ง
ส่วนพรรคเพื่อไทยมองว่ากรณีนี้เป็นเรื่องส่วนบุคคล ดังนั้นการลาออกถือเป็นการปัดความรับผิดชอบหรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของตัวบุคคลหรือพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งแน่นอนว่าความรับผิดชอบส่วนบุคคลเกิดขึ้นด้วยการลาออก แต่ไม่รู้ว่าต้องการที่จะแก้ไขปัญหาสถานการณ์ทางการเมือง มากกว่าที่จะแก้ไขปัญหาบ้านเมืองหรือไม่ จึงอยากเรียกร้องไปยังรัฐบาลไทยอยากเห็นความมุ่งมั่นตั้งใจที่มากกว่านี้ ในการนำตัวผู้ถูกดำเนินคดีมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม อย่างน้อยเพื่อส่งสารถึงคนจังหวัดชายแดนใต้ว่าได้พยายามถึงที่สุด
แต่ในความเป็นพรรคการเมืองสำหรับพรรคเพื่อไทย คงมีคำตอบต่อคนที่เลือกท่านต่อเรื่องที่เกิดขึ้น พรรคประชาชนในฐานะวิปฝ่ายค้านจะใช้กลไกในการติดตามเรื่องนี้ เพื่อคืนความเป็นธรรมให้กับประชาชนทั้งการสนับสนุนการดำเนินคดี ที่ศาลจังหวัดนราธิวาส กลไกผ่านคณะกรรมาธิการคณะต่างๆของสภา และการตั้งกระทู้ถามในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร แต่เนื่องจากรัฐบาลรัฐบาลนี้เพิ่งเข้ารับตำแหน่งได้เพียงไม่นานฝ่ายค้านจะไม่มีการยื่นขอเปิดอภิปรายทั่วไป และอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในสมัยการประชุมนี้ แต่จะมีการยื่นขอเปิดอภิปรายในสมัยประชุมหน้า ซึ่งจะมีการนำเรื่องนี้เป็นหนึ่งในเรื่องที่จะอภิปรายรัฐบาล
นายณัฐวุฒิ ยอมรับว่า ฝ่ายค้านได้มีการประเมินสถานการณ์ ถึงกรณีที่คดีหมดอายุความใน วันที่25 ตุลาคม และจำเลยทุกคนกลับมาโดยไม่ถูกดำเนินคดี แต่อยากส่งสารว่าอย่าปล่อยให้ไปถึงวันนั้น แต่เราก็ไม่เห็นด้วยที่จะเสนอให้ขยายอายุความ เพราะในกระบวนการวิธีพิจารณาความ อาญาไม่สามารถทำได้ และจะทำให้ประเด็นหลักเสียหายไป ซึ่งหากไม่สามารถนำตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีได้ทันเวลาก็จะทำให้พ้นความรับผิดชอบในทางอาญา
แต่ความรับผิดชอบทางการเมืองคงยังไม่จบลง ซึ่งส่วนตัวไม่อยากให้สถานการณ์เพิ่มความรุนแรงไปมากกว่านี้ จึงเรียกร้องรัฐบาลให้เร่งดำเนินการ เช่น การเจรจาของชุดสันติภาพชายแดนใต้ไม่มีการประชุมมาแล้วหลายเดือน ในช่วงเปลี่ยนผ่านจากรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน มาเป็นรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ซึ่งสารที่คณะรัฐมนตรีจะส่งไปถึงประชาชนตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 25 ตุลาคมถือเป็นความสำคัญต่อทิศทางและสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นต่อไป ซึ่ง แม้ว่าพลเอกพิศาลจะลาออกและไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
แต่พรรคการเมืองต้นสังกัดก็ปฏิเสธความรับผิดชอบ ไม่ได้ ในสถานะพรรคการเมืองเองอาจมีข้อจำกัดในการแสดงความรับผิดชอบ หรือเข้าไปแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม ดังนั้นเรื่องนี้จึงต้องส่งไปยังนายกรัฐมนตรี และพรรคร่วมรัฐบาล ในนามของรัฐไทยในการแก้ไขปัญหาชายแดนใต้เพราะเป็นเรื่องที่มากกว่าตัวบุคคลหรือพรรคการเมือง
นายณัฐวุฒิ ยังกล่าวว่า ต้องไม่ลืมว่าคดีตากใบไม่ได้เริ่มต้นขึ้นโดยรัฐ แต่เป็นประชาชนที่ยื่นฟ้องต่อศาลเอง จึงต้องย้อนไปดูว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐหลายระดับที่จะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews