“พร้อมพงศ์”ยื่นประธานสภา สอบ”พล.อ.ประวิตร”ขัดจริยธรรมร้ายแรง มาประชุมแบบพญาอินทรีย์ แบบโฉบมา ปัดตามจองเวร ทำตามหน้าที่เพื่อประโยชน์สาธารณะ
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย ยื่นหนังสือร้องเรียนซ้ำต่อประธานรัฐสภาถึงกรณีพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ขัดจริยธรรมร้ายแรงหรือไม่ ว่าเมื่อวานนี้(16 ต.ค.) ที่พลเอกประวิตรเข้ามาเซนชื่อที่อาคารรัฐสภาคาดว่าจะเป็นการจัดฉากหรือไม่ เพราะมีการโชว์บัตรและมีบอดี้การ์ดมาเซ็นชื่อที่ชั้นสอง และปรากฏเป็นภาพข่าวผ่านสื่อต่างๆ
หลังจากที่เซ็นชื่อเสร็จก็เดินทางกลับทันที ตนมองว่าอาจผิดกฏหมายป.ป.ช.มาตรา 157 หรือไม่ โดยมีหลักฐานชัดเจนจึงต้องยื่นซ้ำเป็นครั้งที่ 2 ทั้งที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) และสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)และสภา
เห็นได้ชัดว่าทุกครั้งที่มาประชุมสภา 11 ครั้ง ตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค. 2566 ถึง 17 ต.ค. 2567 ซึ่งคาดเป็นการประชุมที่ครั้งที่ 102 ซึ่งเป็นการเข้าประชุมครั้งที่ 12 ส่วน 11 ครั้งที่ผ่านมาเป็นการมาประชุมแบบพญาอินทรีย์ แบบโฉบมา สื่อก็ไม่เห็น
และถือว่าเป็นการมาแบบจอมยุทธเหยียบหิมะไร้รอย ถือเป็นประจักษ์พยานอย่างหนึ่งว่าการมา 12 ครั้ง น่าจะมีปัญหาเหมือนกัน และอยากให้คณะกรรมการจริยธรรมสภาตรวจสอบลายเซ็นทั้งหมดว่าเหมือนกันหรือไม่ และไปตรวจสอบกล้องวงจรปิด ว่ามีคนนำสมุดไปให้เซ็นที่รถจะผิดระเบียบหรือไม่ รวมถึงการเสียบบัตรแทนกัน ที่มีอดีต สส. หลายคนต้องคดีและถูกตัดสิทธิทางการเมือง
จึงอยากถามว่าทำได้อย่างไร เพราะเป็นสส.เป็นตัวแทนประชาชน ทำหน้าที่ออกกฎหมาย ถ้าสส. อีกกว่า 400 คน ทำตัวเช่นนี้ สภาคงขาดความเชื่อมั่นจากประชาชน และจะทำให้องค์ประชุมในสภาไม่ครบไม่สามารถผ่านกฎหมาย รวมถึงไม่สามารถตรวจสอบรัฐบาลได้ เมื่อมีรัฐบาลที่เข้มแข็งก็ต้องมีฝ่ายค้านที่เข้มแข็ง
นายพร้อมพงศ์ กล่าวต่อว่า ไม่ได้จองล้างจองผลาญพลเอกประวิตร แต่เป็นการทำตามหน้าที่เพื่อประโยชน์สาธารณะ เพราะมีประชาชนร้องมา ส่วนเรื่องที่ 2 ที่นำมาร้อง มีการลา 3 ช่วง 8 วัน โดยช่วงแรกเป็นการลาตั้งแต่ 27-29 มี.ค. 2567 ช่วงที่2 18-20 มิ.ย. 2567 ช่วงที่ 3 ก.ค.-1 ส.ค.2567 จาก การตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกพบว่าวันที่ 31 ก.ค.2567 มีการแจ้งลาไปต่างประเทศ
แต่แท้จริงแล้วพลเอกประวิตรเดินทางไปทำบุญ ที่จ.นครพนม และการเดินทางไปต่างประเทศของพลเอกประวิตร ก็ใช้เครื่องบินส่วนตัว ซึ่งค่าใช้จ่ายใช้เงินไปหลายล้านบาท การเดินทางทั้งหมด 8 ครั้ง ใช้เงินส่วนไหนของข้าราชการ หากใช้เงินส่วนตัวจะมีรายละเอียดหรือไม่ขอให้ชี้แจงมา ส่วนเท่าที่ทราบเครื่องบินส่วนตัวนั้นน่าจะเป็นเครื่องเจ้าสัว หากมีสปอนเซอร์ และมีการรับทรัพย์เกิน 3,000 บาท ก็จะผิดกฎหมายป.ป.ช.
เพราะการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐก็จะถือว่าขัดจริยธรรมร้ายแรง ขอเรียกร้องให้มีการเร่งพิจารณา ของคณะกรรมการจริยธรรม โดยเฉพาะประธานรัฐสภารวมถึงผู้นำฝ่ายค้าน อย่ามัวแต่ไปพิจารณาเรื่องอื่น เพราะเรื่องนี้ประชาชนเดือดร้อน จะเป็นมวยล้ม ต้มคนดู หรือรัฐสภาจะปกป้องพวกเดียวกันหรือไม่ ดังนั้นขอให้ช่วยเร่งดำเนินการ
นายพร้อมพงศ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ในสัปดาห์หน้า จะไปยื่นร้องซ้ำกรณีพลเอกประวิตรอีก ที่ป.ป.ช.และกกต. และทำหนังสือถึงนายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เพราะข้อบังคับของพรรค ข้อที่ 60-65 เป็นเรื่องจริยธรรม มีการยกมาจากรัฐธรรมนูญส่วนหนึ่ง หากหัวหน้าพรรคทำตัวแบบนี้จะขัดจริยธรรมหรือไม่ และให้คณะกรรมการบริหารพรรคตรวจสอบเรียกประชุม
ถ้ามีส่วนช่วยเหลือก็จะมีส่วนผิด พ.ร.ป.พรรคการเมือง ย้ำว่าไม่ใช่เกมการเมือง เป็นการจรวจสอบเพื่อสาธารณะ และถ้าพลเอกประวิตรลาออกเรื่องก็จะจบ และให้องค์กรอิสระตรวจสอบเรื่องที่ยื่นไปแล้ว
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews