Home
|
ข่าว

พาณิชย์ จับตาผลเลือกตั้งสหรัฐฯ กระทบไทย

Featured Image

 

 

 

พาณิชย์ จับตาผลเลือกตั้งสหรัฐฯ กระทบไทย ต้องศึกษาให้รอบคอบ เร่งปรับตัว

 

 

 

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้ติดตามความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2567 ระหว่างรองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต และอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกันอย่างใกล้ชิด ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อเศรษฐกิจของไทย โดยนโยบายของทั้งสองฝ่ายมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ในประเด็นด้านการค้า การลงทุน และนโยบายที่อาจส่งผลต่ออัตราเงินเฟ้อ อาทิ

 

ในกรณีที่แฮร์ริสชนะการเลือกตั้ง คาดว่าจะมีการสนับสนุนการค้าเสรีมากขึ้น โดยอาจมีการผลักดันให้สหรัฐฯ กลับเข้าร่วมความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (CPTPP) ซึ่งจะเป็นโอกาส ให้ไทยพิจารณาเข้าร่วมเพื่อขยายการค้ากับประเทศสมาชิก ในทางกลับกัน หากทรัมป์กลับมาดำรงตำแหน่ง อาจมีการเพิ่มภาษีนำเข้าอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเป็น 60% หรือมากกว่า แต่ในขณะเดียวกันก็อาจเป็นโอกาสให้มีการย้ายฐานการผลิตจากจีนมายังไทยเพิ่มขึ้น

 

 

และในกรณีที่แฮร์ริสได้รับชัยชนะ อาจส่งผลดีต่อการลงทุนในประเทศไทยในหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านเทคโนโลยีสะอาดและนวัตกรรม การส่งเสริมการลงทุนในพลังงานหมุนเวียน

 

 

ในการเตรียมพร้อมรับมือกับความไม่แน่นอนจากผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาและนโยบายที่อาจตามมา ประเทศไทยควรดำเนินการในหลายด้าน เริ่มจากภาคธุรกิจที่ควรกระจายความเสี่ยง โดยขยายตลาดส่งออกไปยังภูมิภาคอื่นๆ นอกเหนือจากสหรัฐฯ พร้อมทั้งพัฒนานวัตกรรมและเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน นอกจากนี้ ควรติดตามนโยบายการค้าและเศรษฐกิจของสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิดเพื่อปรับตัวได้ทันท่วงที และพิจารณาการลงทุนในเทคโนโลยีสะอาดและพลังงานทางเลือกเพื่อรองรับแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานในอนาคต

 

 

ในด้านเศรษฐกิจและการเงิน ภาครัฐควรเตรียมมาตรการรองรับผลกระทบจากความผันผวนของราคาสินค้านำเข้า และพัฒนาอุตสาหกรรมภายในประเทศเพื่อลดการพึ่งพาการนำเข้า นอกจากนี้ ควรส่งเสริมการใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนในภาคธุรกิจ

 

 

ผอ.สนค. กล่าวเพิ่มเติมว่า การติดตามและวิเคราะห์สถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมถึงการเตรียมมาตรการรองรับที่ยืดหยุ่นและปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ จะเป็นกุญแจสำคัญในการรับมือกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และนโยบายเศรษฐกิจที่จะตามมา รวมถึงการบูรณาการความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน จะช่วยให้ประเทศไทยสามารถรับมือกับความท้าทายและฉกฉวยโอกาสที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube