นายกฯ ลุยร้อยเอ็ด แก้ไขปัญหายาเสพติดสานต่อ “เศรษฐา” ยก “ธวัชบุรี-ท่าวังผา” โมเดล ขยายผล 10 จ. ย้ำ จนท.ต้องมีน้ำให้ใจผู้บำบัด มองเป็นป่วย ชาวบ้านขอนายกฯสวมกอด บอกตัวจริงสวยมาก
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม, น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เดินทางลงพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยมีพลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติรอให้การต้อนรับ
ขณะที่ภารกิจแรกนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด และกำหนดเป็นพื้นที่นำร่องทั่วประเทศ ณ วัดบ้านเขวาทุ่ง ตำบลเขวาทุ่ง อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ดซึ่งทันทีที่นายกรัฐมนตรี เดินทางมาถึง ได้รับชมการแสดงจากชาวบ้านในพื้นที่รำประเพณีชวนอ้ายเที่ยวเมืองร้อยเอ็ด และมีตัวแทนชาวบ้านผูกผ้าขาวม้าให้การต้อนรับ
จากนั้นได้รับฟังการรายงานผลการดำเนินการการแก้ไขปัญหายาเสพติด จาก พลตำรวจตรีทรงพลัง บริบาลประสิทธิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด, สาธารณสุขจังหวัด โดยของบประมาณเพิ่มเติมในการบริหารจัดการ เนื่องจากยังมีบางส่วนที่ไม่เพียงพอและรับฟังการบูรณการจาก มณฑลทหารบกที่ 21 กองทัพภาคที่ 2
จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้พบปะกับประชาชน บางส่วนที่มารอต้อนรับ ขอนายกรัฐมนตรีถ่ายรูปและสวมกอดอย่างเป็นกันเอว พร้อมกับชมนายกฯ ว่า ตัวจริงสวยมาก ก่อนที่จะรับมอบพระพุทธรูปปางชนะมารและรูปหล่อเหมือนหลวงปู่อินทร์ จากพระครูเกษมธรรมะสาคร เจ้าอาวาส วัดเขวาทุ่ง
นายกฯ กล่าวว่า เสียงแหบนิดนึง ยังไม่ค่อยหายดี ดีใจและเป็นเกียรติที่ได้ติตตามงานต่อจากนายกฯเศรษฐา ทวีสิน ซึ่งมีความจริงจังในการปราบยาเสพติดทั้งประเทศ ซึ่งมีธวัชบุรีโมเดล จังหวัดร้อยเอ็ดและท่าวังผาโมเดล ที่จังหวัดน่าน
อย่างที่บอกปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาพื้นที่ ที่หากไม่เอาจริงจะต่อนโยบายอื่นได้ยาก นโยบายยาเสพติดจึงถือเป็นวาระแห่งชาติที่รัฐบาลได้แถลงต่อสภา ทั้งนี้ขอบคุณที่ทำงานอย่างจริงจัง ซึ่งต้องอาศัยแรงกายแรงใจในการแก้ปัญหา ขณะที่คนที่ติดยาเสพติดที่เข้าสู่สังคมตนขอให้กำลังใจ เพราะการตกเป็นทาสยาเสพติดไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องอาศัยกำลังใจจากสังคม ยืนยันว่า รัฐบาลนี้พร้อมสานต่อนโยบายการแก้ไขปัญหายาเสพติด ไม่อยากให้ลูกหลานโตมากับยาเสพติด โดยเราจะตั้ง 10 จังหวัดนำร่องยกระดับให้เข้มข้นขึ้น ได้แก่ ภาคเหนือ เชียงใหม่ , ภาคกลาง อุทัยธานี ปทุมธานี ประจวบคีรีขันธ์ ,ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สกลนคร นครพนม ภาคตะวันออก ระยอง และ ภาคใต้ นครศรีธรรมราช ตรัง นราธิวาส
นายกฯ กล่าวว่า นอกจากนี้ขอให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ปปส.) ทำในเรื่องของแดชบอร์ด การอัปเดตข้อมูล เพื่อเป็นฐานข้อมูลให้เจ้าหน้าที่ อาสาสมัครรับทราบข้อมูลร่วมกัน เข้าถึงข้อมูลได้ จะได้รู้ว่าเราแก้ปัญหาไปถึงจุดไหนแล้ว พร้อมย้ำว่า ยาเสพติดเป็นเรื่องของทุกคนที่ต้องช่วยกันทำให้หมดไป และหากปัญหายาเสพติดหมดไป จะช่วยแก้ปัญหาเล็กน้อยให้หมดไปด้วย ทั้งนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็ทรงกังวลในเรื่องนี้ด้วย
ส่วนเรื่องของการปราบปราม นายกฯ ระบุว่า ขอให้ตัดวงจร และเพิ่มประสิทธิภาพการยึดอายัดทรัพย์เพื่อไม่ให้เกิดขึ้นอีก และคิดว่าจะเป็นการดี เราเองดูแลประชาชน แล้วเราต้องดูแล ข้าราชการที่ทำงานด้วยเมื่อถึงจุดนั้นอยากให้มีการตรวจเช็กข้าราชการด้วย ไม่ใช่การไม่ไว้ใจ แต่อยากให้เป็นตัวอย่างที่ดีว่าคนทำงานไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ประชาชนจะได้ไว้ใจคนที่เข้าไปปราบปราม ดูแล บำบัด
ส่วนเรื่องของการบำบัดมี ปปส. องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) มหาดไทย (มท.) ตำรวจ ทหาร คอยดูแล และขอให้เร่งพิจารณาสถานพยาบาล และการเปิดศูนย์บำบัด อยากให้ย้ำเสมอว่าขอให้ใจดีกับผู้รักษา เพราะกำลังใจเท่านั้นทำให้ผู้บำบัดเดินออกไปอย่างสง่างาม และขอย้ำในเรื่องของการฝึกอาชีพที่รัฐบาลอยากจะดูต่อเนื่องให้ผู้บำบัดมีอาชีพอย่างจริงจัง สุดท้ายขอเน้นย้ำว่า รัฐบาลจริงจังกับการแก้ปัญหา ให้หมดไปทั้งประเทศ และให้ปัญหายาเสพติดลดลง 90% เป็นพื้นที่สีขาวในทุกพื้นที่
โดยหลังจากที่นายกรัฐมนตรี กล่าวมอบนโยบายเสร็จสิ้นรักษาการผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ได้ตอบรับว่าจะตรวจสารเสพติด ตั้งแต่ระดับผู้ว่าราชการจังหวัดลงไปถึงข้าราชการในทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งหมด
ก่อนที่นายกรัฐมนตรี และคณะจะเดินทางต่อไปยัง ค่ายสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ตำบลโพธิ์สัย อำเภอศรีสมเด็จเพื่อติดตามกระบวนการบำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดของโครงการมินิธัญญารักษ์และเดินทางต่อ ศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหายาเสพติด (อบต.น้ำใส) ตำบลน้ำใส อำเภอจตุรพักตรพิมาน เพื่อตรวจติดตามการฝึกอาชีพและแนวทางการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้เข้ารับการบำบัด และพบปะประชาชนกว่า 500 คน
อย่างไรก็ตามทั้งธวัชบุรีโมเดล จังหวัดร้อยเอ็ด และท่าวังผาโมเดล จังหวัดน่าน เป็นการขับเคลื่อนพื้นที่นำร่องการแก้ไขปัญหายาเสพติด ให้เป็นจังหวัดสีขาว ภายในเกือนก.ย.67 ของรัฐบาลเพื่อไทย 1 ครั้งที่นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายกรัฐมนตรี ให้รถยนต์หมายเลขทะเบียน Lexus สีบรอนซ์เงินหมายเลขทะเบียน 5 ขส 45 กรุงเทพมหานคร ในการเดินทางปฏิบัติภารกิจในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews