พปชร.โชว์ฟอร์มฝ่ายค้านฟาดรบ.แก้เศรษฐกิจ จี้ ตอบแจกหมื่น
พลังประชารัฐ ทำหน้าที่ฝ่ายค้าน จี้รัฐบาลแก้ปัญหาเศรษฐกิจก่อนเพื่อนบ้านไปไกลกว่า ขอตอบให้ชัดเจนแจกเงินดิจิทัลรอบสองได้เมื่อไหร่ ชี้หากทิ้งระยะนาน ไม่กระตุ้นเศรษฐกิจให้กระเตื้องได้แถมยังเพิ่มภาระคลัง ทำไทยเสี่ยงถูกลดเครดิตเรตติ้ง
หลังจากเป็นฝ่ายค้านเต็มตัว พรรคพลังประชารัฐ ก็เดินหน้าตรวจสอบรัฐบาลเต็มที่ พร้อมเร่งรัดให้แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ โดยเฉพาะนโยบายเรือธงของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ที่วันนี้ นายอุตตม สาวนายนและนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รองหัวหน้าพรรคพลัง ประชารัฐ แถลงเตือนรัฐบาล เศรษฐกิจเข้าสู่จุดพลิกผันจะฟื้นจริง หรือฟุบ!!! โดยนายอุตตม กล่าวว่า ไตรมาส 3 และ 4 เริ่มมีสัญญาณจากหลายสำนักทั้งในและนอกประเทศว่าเศรษฐกิจโลกอาจจะเริ่มฟื้นตัวได้ แต่ความเสี่ยงยังมีในหลายเรื่อง
โดยเฉพาะภูมิรัฐศาสตร์ เรื่องสงคราม ความขัดแย้งอาจกระทบเศรษฐกิจ โดยธนาคารโลก ชี้ว่าอาเซียนน่าจะฟื้นตัวได้ดี แต่ประเทศไทยเมื่อเทียบกับเพื่อนในอาเซียน ตั้งแต่โควิดซา เราฟื้นช้ากว่าคนอื่นเราโตกว่าแค่เมียนมา ส่วนโพลของหอการค้า ชี้ออกมาว่าความเชื่อมั่นผู้บริโภคในประเทศยังไม่กระเตื้อง ลดต่อเนื่องมา 7 เดือนแล้ว
ส่วนธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ชี้ว่า ไตรมาส 4 น่าจะดีขึ้น แต่ถ้าไม่ดี เราจะเสียโอกาส เพราะประเทศเพื่อนบ้านโตเร็วกว่า ชิงโอกาสได้ดีกว่าเรา รัฐบาลจึงต้องเร่งขับเคลื่อนแก้ปัญหาที่สะสม
นายอุตตม ยังกล่าวอีกว่า ภาระหนี้ของประชาชนน่าเป็นกังวล หนี้ครัวเรือนจะแตะร้อยละ 90 ของขนาดประเทศไทย ที่วัดโดย GDP อยู่อันดับ 7 ของโลก ถ้ารัฐบาลหวังให้เศรษฐกิจฟื้นตัวเร็ว ต้องแก้ไขหนี้ที่เหมือนเป็นวาระแห่งชาติ
ด้านนายสนธิรัตน์ กล่าวว่า สองนโยบายเรือธงของรัฐบาล ซึ่งเป็นนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ นโยบายแรกเรื่อง พลังงาน พรรคเพื่อไทย ประกาศชัดเจนว่าเมื่อเป็นรัฐบาลจะลดราคาทันทีแต่สิ่งที่น่าเป็นห่วง ผ่านมาปีกว่า เป็นรัฐบาลมาสองคณะ ยังไม่เห็นความชัดเจนนโยบายด้านพลังงาน ทั้งน้ำมัน และไฟฟ้า ส่วนการแจกเงิน 1 หมื่นบาท ให้กลุ่มเปราะบางนั้น การกระตุ้นเศรษฐกิจจะต้องดำเนินการนโยบายต่อเนื่อง เพื่อให้เศรษฐกิจเกิดพลังหรือพายุหมุน แต่ปัจจุบันยังไม่สามารถตอบได้ว่าครั้งที่สองจะมาเมื่อไหร่ หากล่าช้าพรรค พปชร.ไม่เชื่อว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริงใช้ครั้งเดียวหมด ไม่ได้เกิดพายุหมุน และเม็ดเงินมหาศาลที่ใช้จะเป็นภาระใหญ่มากของประเทศในอนาคต และขณะนี้ต่างชาติเริ่มประเมินภาวะการคลังของประเทศไทยแล้ว มีแนวโน้มจะลดเครดิตเรตติ้ง อันเกิดจากภาวะการคลังที่เปราะบางขึ้น ในส่วนเพดานหนี้สาธารณะนั้น ภาระหนี้มีส่วนต่างแค่ล้านเศษๆ ถ้าเดินนโยบายผิดพลาดจะกระทบภาพใหญ่ความมั่นคงทางการคลังของรัฐบาลแน่นอน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews