Home
|
ข่าว

นายกฯ หารือแลกเปลี่ยนผู้นำเอเปคเพิ่มโอกาสลงทุนไทย

Featured Image

 

 

นายกฯ ยืนยันหารือแลกเปลี่ยนผู้นำเอเปค เพิ่มโอกาสการค้าการลงทุนไทย-สร้างเม็ดเงิน เข้าประเทศ

 

 

 

 

 

 

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 16 พ.ย.67 ตามเวลาท้องถิ่นของกรุงลิมา ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 12 ชั่วโมง ณ โรงแรมสวิสโซเทล ลิมา สาธารณรัฐเปรู น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงภาพรวมในการเข้าร่วมประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 31 และการประชุมอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ณ กรุงลิมา สาธารณรัฐเปรู ว่า

 

ประเทศไทย ก็เคยเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปค เมื่อปี 2565 ภายใต้แนวคิด BCG Economy หรือ Bio-circular -Green ecocomy ซึ่งในการประชุมครั้งนี้ก็ยังใช้แนวคิดเดิม โดยมีหัวข้อหลักๆ อาทิ การเสริมสร้างพลัง การมีส่วนร่วม และการเติบโตที่ยั่งยืน (Empower Include Grow) เพื่อให้สมาชิกเติบโตที่ยั่งยืนไปด้วยกัน

 

โดยการมาเยือนในครั้งนี้ได้มีการขับเคลื่อนการลงทุน โดยผลักดันให้เกิดการค้าเสรี หรือ FTA ขึ้น ขณะเดียวกัน ก็ได้ส่งเสริมในเรื่องของนวัตกรรม ดิจิทัล และการเติบโตที่ยั่งยืน ทั้งหมดจึงตรงกับนโยบายที่ประเทศไทยกำลังผลักดันอยู่พอดี เพราะขณะนี้ทั่วโลกส่วนใหญ่เน้นย้ำเรื่องนี้เป็นหลัก ซึ่งประเทศไทยเองก็เช่นกัน

 

สำหรับการประชุมนั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ในการหารือกับสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปค ได้คุยกับผู้นำแต่ละเขตเศรษฐกิจและนักธุรกิจในด้านต่างๆ อาทิ พลังงาน รถยนต์ไฟฟ้า และAI ซึ่งหลายบริษัทได้สอบถามว่า ประเทศไทยกำลังอยู่ในจุดไหน จึงตอบไปว่า ตอนนี้ประเทศไทยกำลังรับเรื่องการลงทุน เพื่อสร้างเม็ดเงินใหม่ๆ เข้ามาในประเทศ

 

โดยเน้นไปที่เทคโลโลยี AI , Semiconductor และ Data center วันนั้น จึงได้มีโอกาสพูดคุยกับนักธุรกิจด้วยกัน 3 บริษัท ประกอบด้วย Tiktok , Microsoft และ Google จึงเสมือนเป็นการต่อยอดให้มาลงทุนเพิ่มเติมกับประเทศไทย และประกาศว่าประเทศไทยพร้อมจะสนับสนุนในเรื่องใดบ้าง เพื่อให้ต่างชาติเกิดความมั่นใจว่าหากมาลงทุนที่ไทย

 

โดย 3 บริษัทนี้ มีการลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านด้วย เหตุนี้ จึงอยากให้มาลงทุนในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น ฉะนั้นหากถามว่าประเทศจะได้อะไรจากการลงทุนในครั้งนี้ แน่นอนว่าการลงทุนอย่าง Data center จะทำให้คนไทยเกิดอาชีพใหม่ๆ และเกิดการจ้างงานแบบใหม่ๆ เพราะอย่างที่ทราบกันว่าตอนนี้ GDP ของไทยเติบโตไม่เต็มศักยภาพ

 

ดังนั้น การหาเม็ดเงินใหม่ๆเข้ามาในประเทศ เพื่อให้คนมีรายได้และมีอาชีพจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยไทยจะต้องพัฒนาทุกด้านไปพร้อมๆกัน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของเงิน 10,000 บาท รายได้ใหม่ ซอฟต์พาวเวอร์ การลงทุน และการหาเม็ดเงิน ไม่ใช่อย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อให้เกิดภาพรวมและกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งประเทศ

 

นายกรัฐมนตรี กล่าวทิ้งท้ายถึงการเข้าร่วมงานกาล่าดินเนอร์ ว่า ได้มีโอกาสเข้าร่วม 2 ครั้ง คือ งานเลี้ยงอาหารค่ำ APEC CEOs-Leaders Dinner และงานเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค จึงได้สร้างความมั่นใจและขอความร่วมมือให้ภาคเอกชนมาลงทุนที่ประเทศไทย ตลอดทั้งสามวันจึงถือว่าได้ประสบการณ์เป็นอย่างมาก เพราะได้แลกเปลี่ยนมุมมองกับผู้นำในแต่ละเขตเศรษฐกิจ ซึ่งพอได้คุยกันอย่างเป็นการส่วนตัว ก็ได้คุยกันถึงเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศ

 

ขณะเดียวกัน ได้เน้นย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีโลกด้วยว่า พร้อมแล้วสำหรับการลงทุน และความร่วมมือ เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจทั้งของเราและเพื่อนสมาชิก ด้วยเหตุนี้ จึงมั่นใจว่าการได้พูดคุยกันแบบนี้จะทำให้เราสามารถเดินหน้าความร่วมมือกับประเทศต่างๆและหาโอกาสให้กับประเทศไทยได้ง่ายขึ้น โดยในการเจรจาครั้งต่อไปเขาก็จะได้รู้ว่าเรามีตัวตนและมีศักยภาพ

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube