Home
|
ข่าว

กรมการจัดหางาน แจง ไม่ “ล็อกสเปก” ทำประกันสุขภาพแรงงาน

Featured Image
กรมการจัดหางาน แจง ไม่ “ล็อกสเปก” ทำประกันสุขภาพแรงงาน 4 สัญชาติ
ยืนยันมีหลักเกณฑ์การกำหนดมาตรฐานบริษัทประกันภัยที่มั่นคง กำหนดระยะเวลาเหมาะสม นายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีสื่อมวลชน นำเสนอข่าวถึงข้อกังวลเกี่ยวกับการ “ล็อกสเปก” ในการทำประกันสุขภาพสำหรับคนต่างชาติที่จะขอใบอนุญาตทำงานในประเทศไทยว่าอาจทำให้มีเพียง 2 – 3 บริษัทที่ได้รับประโยชน์ อีกทั้ง ยังกำหนดระยะเวลาให้ยื่นความจำนงเพื่อดำเนินการประกันสุขภาพคนต่างชาติเพียงวันเดียวเท่านั้น เกี่ยวกับเรื่องนี้ กรมการจัดหางาน
ขอชี้แจงว่า การดำเนินการประกันสุขภาพแรงงานต่างชาติ ดังกล่าว กรมการจัดหางานดำเนินการตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2567 ที่กำหนดให้คนต่างชาติ สัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม ซื้อประกันสุขภาพกับโรงพยาบาลของรัฐหรือบริษัทประกันภัยตามกฎหมายว่าด้วยการประกันวินาศภัยที่มีสถานะมั่นคงตามหลักเกณฑ์ที่กรมการจัดหางานกำหนด
ดังนั้นกรมการจัดหางานจึงได้ตั้งคณะทำงานเพื่อกำหนดมาตรฐานด้านความมั่นคงของบริษัทประกัน ซึ่งบริษัทประกันภัยทุกบริษัทที่ได้มาตรฐานตามกำหนด สามารถขอเข้าเชื่อมโยงระบบกับกรมการจัดหางานได้ ทั้งนี้ได้กำหนดระยะเวลาในการยื่น ตั้งแต่วันที่ 11 – 19 พฤศจิกายน 2567 จึงขอยืนยันไม่มีการล็อกสเปกบริษัทประกันภัยที่รับประกันสุขภาพให้กับแรงงานต่างชาติ
เนื่องจากไม่ใช่การดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง กรมการจัดหางานเป็นเพียงผู้กำหนดหลักเกณฑ์ของบริษัทประกันตามกฎหมายว่าด้วยการประกันวินาศภัยฯ เท่านั้น นอกจากนี้กรมฯ จะประชาสัมพันธ์รายชื่อบริษัทประกันภัยทุกรายที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์ให้บริษัทผู้ยื่นความจำนงทราบเพื่อความโปร่งใส นายสมชาย กล่าวต่อว่า ทั้งนี้กรมการจัดหางานได้มีหนังสือแจ้งหลักเกณฑ์ฯ ให้บริษัทประกันภัยทราบโดยทั่วกันแล้ว สำหรับบริษัทที่มีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ กรมการจัดหางานจะทำการเชื่อมโยงข้อมูลการประกันสุขภาพ และประชาสัมพันธ์รายชื่อบริษัทให้นายจ้างและแรงงานต่างชาติที่ประสงค์จะซื้อประกันสุขภาพทราบต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube