“ทักษิณ” ดินเนอร์ทอล์คนิตยสารฟอรบส์ เปิดประสบการณ์ นักธุรกิจ – นักการเมือง 25 ปี โชว์ปึ๊กพรรคร่วม ไร้ตื่นเต้นศาล รธน.รับไม่รับคำร้องล้มล้างการปกครอง ซัด ธปท.ทำเศรษฐกิจไม่คืบ
นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมงาน Gala Dinner and Session XVII In Conversation พร้อมร่วมสนทนากับ Steve Forbes, Chairman and Editor-in-Chief, Forbes Media ซึ่งมีภาคเอกชนยักษ์ใหญ่ของประเทศเข้าร่วมจำนวนมาก อาทิ นายธนินท์ เจียรวนนท์ นายสารัชถ์ รัตนาวะดี และนายฐาปน สิริวัฒนภักดี
โดยนายทักษิณ ได้กล่าวถึงประสบการณ์การทำงาน 25 ปีที่ผ่านมาว่า มีนรกและสวรรค์ ชีวิตตนเริ่มธุรกิจมาจากศูนย์ และผ่านความยากลำบากมาอย่างมากมาย ก่อนที่จะประสบความสำเร็จ ซึ่งเห็นนรกก่อนเห็นสวรรค์
จึงเป็นเหตุผลที่ตัดสินใจเล่นการเมือง ซึ่งในช่วงต้นประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากเรียกได้ว่าเห็นสวรรค์ในทางการเมือง ส่วนนรกนั้นตามมาทีหลัง พร้อมกับระบุว่า นรกสวรรค์คือชีวิตขอตน มีขึ้นและมีลง และตอนนี้คิดว่าอยู่บนพื้นดินแล้ว ไม่เอาสวรรค์ไม่เอานรก
ขณะเดียวกัน นายทักษิณ ยังพูดว่า รัฐบาลผสม มีพรรคร่วม จึงต้องมีข้อตกลงร่วมกันในการทำหลายสิ่ง ซึ่งโชคดี เพราะส่วนใหญ่คนที่อยู่ในรัฐบาลผสมเคยทำงานร่วมกับตนตอนที่ตั้งพรรคไทยรักไทยขึ้นมาในปี 2541 และกลายเป็นรัฐบาลในปี 2544 และคนที่เป็นตัวหลักส่วนใหญ่ ก็เคยเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลของตน ความร่วมมือ และความสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาลถือว่ายังดีอยู่ และอีกหนึ่งสิ่งนายกรัฐมนตรี หน้าตาคล้ายตน คงรู้สึกคุ้นเคย และเคยทำงานกับตน แต่อาจจะเป็นเวอร์ชั่นที่ 2
ส่วนที่ถูกตกเป็นเป้าทางการเมือง และในวันที่ 22 พ.ย.นี้ ศาลรัฐธรรมนูญ จะอ่านคำวินิจฉัยรับหรือไม่รับคำร้อง มีวิธีจัดการอย่างไรต่อจิตใจไม่ให้ตกไปสู่นรกอีก นายทักษิณ ระบุว่า ตนผ่านจุดนี้ มาบ่อยๆผ่านมาหลายสิ่ง อย่างที่บอกว่าเห็นทั้งนรกและสวรรค์ ไม่มีอะไรที่ทำให้ตื่นเต้น และรู้สึกว่า ไม่เป็นไร ก็แค่รอรับฟังคำตัดสิน เพราะต้องมองไปข้างหน้า เราไม่ย้อนกลับไปในอดีต ไปข้างหน้า แต่ไม่ใช่ moving forward
นายทักษิณ ยังกล่าวอีกว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจไม่เคลื่อนไปข้างหน้า รัฐบาลทหารและธนาคาร คิดว่าเราไม่ควรสร้าง ติดตั้งแต่วิกฤตปี 40 ธนาคารแห่งประเทศไทยพยายามปกป้องธนาคารพาณิชย์ออกพันธบัตร ทำให้ GDP ของประเทศโตน้อยกว่าประเทศอื่น ซึ่งเป็นที่เป็นเหตุผลว่าเหตุใด ไทยจึงเติบโตน้อยกว่าที่อื่น
โดยธนาคารแห่งประเทศไทยควรจะต้องดูสถานการณ์ของสกุลเงินและอีกหน้าที่คือดูแลธนาคารพาณิชย์ บางทีก็งงกับบทบาทปกป้องธนาคารพาณิชย์มากเกินไป ซึ่งในอดีตธนาคารพาณิชย์ ใช้ Concept จับมือที่ลูกค้าที่มีปัญหา แต่ปัจจุบันกลับใช้การเก็บเงินสำหรับคนที่อยู่รอด ซึ่งแนวคิดเปลี่ยนไปจากในอดีตธนาคารแห่งประเทศไทยพยายามนำตัวสภาพคล่องออกมาจากธนาคารพาณิชย์
จึงเป็นสาเหตุว่าเหตุใดรัฐบาลจึงพยายามเอาทุนลงไปในระบบเพิ่มขึ้น ผ่านโครงการดิจิทัล wallet ซึ่งก็เหมือนกับปลาที่อยู่ในบ่อน้ำพวกเขา ตราบใดที่มีน้ำก็ว่าได้ วางไข่ได้แต่ถ้าไม่มีน้ำก็ไม่สามารถวางไข่ได้ ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทย ไม่ควรเป็นอิสระ รัฐบาลควรจะมีส่วนร่วมมากขึ้น แม้ว่าจะมีอิสระ แต่ต้องฟัง
ส่วนเมื่อถามว่า ถ้าจะไปกิน KFC กับ ประธานาธิบดี ทรัมป์ จะแนะนำอะไร นายทักษิณ กล่าวว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ พยายามจะลดภาษีในประเทศ แต่เพิ่มภาษีการนำเข้า เห็นว่าจะเพิ่ม 60% ในฝั่งสินค้าจากจีนมันเกินดุลเกินไป และตนคิดว่า อเมริกาคงผลิตไม่ได้ทุกอย่าง ต้องนำเข้าบางอย่าง
กลายเป็นว่าผู้บริโภค ต้องเป็นคนจ่ายเพิ่มตรงนี้ ดังนั้น การที่เรามีนโยบายกีดกันทางการค้าภายใต้ประธานาธิบดีทรัมป์แนวคิดแบบนี้น่าจะรุนแรงพอสมควร ซึ่งมันเหมือนถอยหลังไป 50 ปีที่แล้ว และถ้ามองโลกเป็นพื้นที่ของเรา การกีดกันทางการค้ามันไม่ควรมี
ขณะที่อาเซียน ต้องรวมให้เป็นหนึ่งไม่ใช่หมายถึงประเทศแต่มันหมายถึงนโยบาย รวมไปถึงเชิงประชากรและทรัพยากร ซึ่งตอนที่ตนเป็นนายกรัฐมนตรี ก็เริ่มทำสิ่งนี้ มีการค้าเสรีในระหว่างประเทศอาเซียนมีการผลิตจากประเทศหนึ่งไปสู่ประเทศหนึ่ง ด้วยภาษีที่ต่ำมากๆ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews