หอการค้า เชื่อ เศรษฐกิจผ่านจุดต่ำสุดแล้ว จับตาความเสี่ยงปีหน้า ทั้งนโยบายทรัมป์ ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ และการเมืองไทย
ในงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 42 ที่ จังหวัดชลบุรี นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย บรรยายพิเศษ “ภาพรวมเศรษฐกิจไทยและภูมิภาค” ว่า นโยบายทรัมป์ 2.0 ทำให้ทั่วโลกเกิดความกังวลโดยเฉพาะการขึ้นภาษีนำเข้าจากประเทศจีนที่ ร้อยละ 60 และจะเก็บเพิ่ม ร้อยละ 10 จากทุกประเทศทั่วโลก จะส่งผลต่อซัพพลายเชนทั่วโลก
นำไปสู่สงครามการค้ารอบใหม่ ประกอบกับความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ และสงครามจริง ในส่วนของเศรษฐกิจไทยผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจโตร้อยละ 3 ในไตรมาสที่ 3 เป็นผลจากการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐ ที่ส่งผลดีต่อการลงทุน การก่อสร้าง และภาคค้าปลีกที่เริ่มโดดเด่น ประกอบกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ทำให้ในภาพรวมเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศอยู่ในเกณฑ์ดี
ในส่วนของปี 2568 หลายหน่วยงานประเมินเศรษฐกิจไทย จะขยายตัวเฉลี่ยในกรอบ ร้อยละ 3 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการใช้จ่ายของภาครัฐที่เพิ่มขึ้น ความต้องการของภาคเอกชนที่ขยายตัว การฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยว และการขยายตัวของการส่งออก ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางการค้าโลก
อย่างไรก็ตาม หากนโยบายทรัมป์ ดำเนินการจริงในปีหน้า จะทำให้เศรษฐกิจไทยโตต่ำกว่า ร้อยละ 3 เนื่องจากจะเกิดเป็นสงครามการค้า และสงครามจริง มีผลต่อราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น กระทบต่อต้นทุน
นอกจากนี้ ยังมีความกังวลต่อเสถียรภาพทางการเมือง ที่พรรคแกนนำถูก ซึ่งหากมีความผิดจริง อาจถึงมีการประกาศยุบสภาในช่วงกลางปีหรือครึ่งปีแรก เพราะจะส่งผลต่อการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ทำให้เกิดความล่าช้า ถือเป็นความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจไทยในปีหน้า
ขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า ทั้งมาตรการแจกเงิน 10,000 บาทผู้สูงอายุ ในช่วงตรุษจีน มาตรการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือน พักเงินต้น 3 ปี และมาตรการสนับสนุนเกษตรกรไร่ละ 1,000 บาท จะให้มีเงินหมุนในระบบ 163,728 ล้านบาท ส่งผลต่อให้จีดีพีขยายตัวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 0.9-1.0
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews