“อนุทิน”มอบ “ทรงศักดิ์-อธิบดีที่ดิน” แจงเขากระโดง บอกขอบคุณ กมธ. ให้โอกาสชี้แจงทำประชาชนกระจ่าง ด้าน “พูนศักดิ์” ยัน พิจารณายึดข้อกฎหมายไม่โยงการเมือง
นายพูนศักดิ์ จันทร์จำปี ประธานคณะกรรมาธิการการที่ดินทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจงประเด็นข้อพิพาทที่ดินเขากระโดงระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย กระทรวงคมนาคม และกรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย โดยมีนายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน นายเอก สิทธิเวคิน รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เข้าชี้แจง
โดยก่อนการประชุม นายพูนศักดิ์ ให้สัมภาษณ์ว่า การเชิญมาในวันนี้เป็นประเด็นเขากระโดง ซึ่งประชาชนให้ความสนใจ และกรรมาธิการฯ ยังมีข้อเคลือบแคลงสงสัยในขอบเขตอำนาจหน้าที่ ของคณะกรรมการสอบสวน ตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน
รวมถึงกระบวนการที่มาของการแต่งตั้งคณะกรรมการชุดดังกล่าว ซึ่งจากการพิจารณาของคณะกรรมาธิการ ถ้าเห็นว่ามีประเด็นน่าจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไข ตัวประมวลกฎหมาย ควรจะต้องเร่งดำเนินการ รอคณะกรรมการชุดนี้มีผลในการวินิจฉัยว่าจะเพิกถอนหรือไม่
ทั้งนี้ ประเด็นสำคัญ อยู่ที่การรถไฟแห่งประเทศไทย จะต้องดำเนินการต่อ ไม่ว่าจะอุทธรณ์หรือไม่ ซึ่งมีระเบียบของการอุทธรณ์ไว้อยู่ ซึ่งต้องเร่งดำเนินการให้เสร็จ ไม่ต้องการให้เรื่องนี้เงียบและหายไปกับสังคม พร้อมยืนยันว่า การพิจารณาวันนี้ ยึดหลักข้อกฎหมาย โดยไม่ยึดโยงกับอำนาจการเมือง แต่หากมีช่องโหว่ใด ที่ได้รับอิทธิพลทางการเมือง ก็เป็นหน้าที่ของคณะกรรมาธิการฯ ในการแก้ไขและปรับปรุง ข้อกฎหมาย
จากนั้น การประชุมเริ่มขึ้นในเวลา 10.00 น. และหลังจากที่ประธานกล่าวเปิดการประชุมแล้วเสร็จ นายทรงศักดิ์ ระบุว่า ในส่วนของกระทรวงมหาดไทย ตนในฐานะได้มอบหมายให้กำกับดูแลกรมที่ดิน ซึ่งเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับกรณีที่คณะกรรมาธิการฯ จะประชุมวันนี้
ซึ่งเรื่องเขากระโดงเป็นเรื่องที่สนใจจากประชาชน และประชาชนเองจะดูข้อมูลจากสื่อเป็นส่วนใหญ่ ไม่ได้ความชัดเจนเท่าที่ควร ยืนยันข้อมูลในวันนี้จะเป็นประโยชน์ทำให้กรรมาธิการฯ ได้มีข้อมูลในการที่จะประชุมหารือและสรุปประเด็น เพื่อเป็นประโยชน์ต่อประชาชน และเป็นประโยชน์กับการรถไฟ
ซึ่งบอกว่าเป็นที่ของการรถไฟให้เกิดความชัดเจน พร้อมกับระบุ เรื่องเขากระโดง ไม่ได้กระทบกับสิทธิของคนๆ เดียว แต่เกี่ยวข้องทั้งส่วนราชการ การรถไฟ และประชาชน ซึ่งตนเห็นตัวเลขก็รู้สึกเห็นใจกับ 900 กว่าราย ที่ได้ครอบครองที่ดินมาโดยชอบด้วยกฎหมายมาโดยตลอด ซึ่งหลายคนก็เข้าใจว่า เมื่อศาลมีคำพิพากษาแล้วถึงที่สุดที่ดินดังกล่าวเป็นของการรถไฟทั้งหมด
แม้ให้กรรมาธิการฯ เป็นสื่อกลางสะท้อนข้อเท็จจริงให้เห็นทั้ง 2 ทาง ทั้งการได้มาที่ดินของการรถไฟ ประชาชนได้ครอบครองที่ดินดังกล่าวมาอย่างไร เพื่อที่ได้เป็นข้อมูลให้เกิดความชัดเจน แม้ว่าคำพิพากษาถึงที่สุดก็ต้องยอมรับ แต่จะเป็นที่สุดเฉพาะคู่ความ คู่ความคนอื่นที่ไม่ได้เป็นคู่ความก็ต้องมีการพิสูจน์สิทธิ์ว่าการเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ หากเพิกถอนทั้งหมด จะเป็นธรรมต่อประชาชนหรือไม่
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews