Home
|
ข่าว

รถไฟปรับเปลี่ยนสถานีต้นทาง-ปลายทาง สายใต้น้ำท่วมหนัก

Featured Image

 

 

 

 

การรถไฟฯ ประกาศปรับเปลี่ยนสถานีต้นทาง – ปลายทาง และงดเดินขบวนรถในเส้นทางสายใต้ 10 ขบวน หลังน้ำยังคงท่วมหนัก

 

 

 

 

 

เนื่องจากในพื้นที่ภาคใต้ มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมา ส่งผลให้ทางรถไฟได้รับความเสียหาย การรถไฟฯ จึงขอแจ้งปรับเปลี่ยนสถานีต้นทาง – ปลายทาง และงดเดินขบวนรถในเส้นทางสายใต้ จำนวน 10 ขบวน เป็นการชั่วคราวจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

 

วันที่ 29 พฤศจิกายน 2567
ปรับเปลี่ยนสถานีต้นทาง – ปลายทาง ทั้งเที่ยวไปและเที่ยวกลับ จำนวน 2 ขบวน ดังนี้
– ขบวนรถเร็วที่ 169/170 กรุงเทพอภิวัฒน์ – ยะลา – กรุงเทพอภิวัฒน์ ปรับเปลี่ยนเป็น กรุงเทพอภิวัฒน์ – พัทลุง – กรุงเทพอภิวัฒน์

 

และงดเดินขบวนรถ ทั้งเที่ยวไปและเที่ยวกลับ จำนวน 8 ขบวน ดังนี้
– ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 31/32 กรุงเทพอภิวัฒน์ – ชุมทางหาดใหญ่ – กรุงเทพอภิวัฒน์
– ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 37/38 กรุงเทพอภิวัฒน์ – สุไหงโกลก – กรุงเทพอภิวัฒน์
– ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 45/46 กรุงเทพอภิวัฒน์ – ปาดังเบซาร์ – กรุงเทพอภิวัฒน์
– ขบวนรถเร็วที่ 171/172 กรุงเทพอภิวัฒน์ – สุไหงโกลก – กรุงเทพอภิวัฒน์

 

ทั้งนี้ ระหว่างที่มีการปรับเปลี่ยนสถานีต้นทาง-ปลายทาง และงดเดินขบวนรถในเส้นทางสายใต้นั้น การรถไฟฯ ยังคงเน้นย้ำด้านความปลอดภัยในการใช้เส้นทาง พร้อมทั้งกำชับให้เจ้าหน้าที่การรถไฟฯ จัดที่พักคอย และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ แก่ผู้โดยสาร รวมถึงติดตามสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิด ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเฝ้าระวังและแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที และหากสถานการณ์น้ำลดลงให้เร่งตรวจสอบสภาพทาง และระบบอาณัติสัญญาณ เพื่อความปลอดภัยในการเดินทางของผู้โดยสาร

 

การรถไฟฯ ขออภัยในความไม่สะดวกมา สำหรับผู้โดยสารที่มีตั๋วเดินทางในเส้นทางที่ได้รับผลกระทบ หากไม่ประสงค์เดินทาง สามารถติดต่อขอคืนเงินค่าตั๋วโดยสารได้ที่สถานีรถไฟทุกแห่งทั่วประเทศหรือติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการข้อมูลลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube