กต.พร้อมดูแลคนไทยในสหรัฐฯใช้ชีวิตปลอดภัย
กต. ยันติดตามเหตุการณ์เหยียดเชื้อชาติอย่างใกล้ชิด พร้อมสนับสนุนดูแลคนไทยในสหรัฐให้สามารถใช้ชีวิตประจำวันอย่างปลอดภัย
นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยเกี่ยวกับการดำเนินการของสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน กรณีเหตุการณ์ความรุนแรงและการเหยียดเชื้อชาติต่อชาวเอเชียในสหรัฐฯ ว่า สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน ได้รับทราบและติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด และตระหนักถึงผลกระทบของสถานการณ์ดังกล่าวต่อคนไทยที่อาศัยอยู่ในสหรัฐฯ
ในเรื่องนี้ เอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน และเอกอัครราชทูตของประเทศสมาชิกอาเซียนประจำสหรัฐฯ ในนามคณะกรรมการอาเซียนประจำกรุงวอชิงตัน (ASEAN Committee in Washington : ACW) ได้ร่วมกันสะท้อนข้อห่วงกังวลต่อเหตุการณ์นี้ไปยังรัฐบาลสหรัฐฯ โดยเอกอัครราชทูตมาเลเซียในฐานะประธาน ACW ได้มีหนังสือลงนามถึงนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เพื่อแสดงความห่วงกังวลต่อเหตุการณ์ความรุนแรงและการเหยียดเชื้อชาติต่อชาวเอเชียในสหรัฐฯ ที่เกิดเพิ่มมากขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศ ได้รับรายงานว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้มีหนังสือตอบกลับเมื่อวันที่ 6 เมษายน 2564 ว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เองก็ให้ความสำคัญกับประเด็นดังกล่าว และกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ จะยืนหยัดเพื่อสิทธิของทุกคนในการดำรงชีวิตอย่างปลอดภัยและได้รับการปฏิบัติอย่างมีศักดิ์ศรีทั้งในสหรัฐฯ และทั่วโลก ทั้งนี้ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ลงนามเอกสาร Presidential Memorandum ต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติต่อชาวเอเชียนอเมริกันและหมู่เกาะแปซิฟิก รวมถึงได้ประกาศข้อริเริ่มของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เพื่อส่งเสริมการเข้าถึงชุมชนเพื่อต่อต้านอาชญากรรมจากความเกลียดชังต่อชาวเอเชียอีกด้วย
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ยังได้ย้ำว่า กระทรวงการต่างประเทศและสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน จะติดตามพัฒนาการของเหตุการณ์ดังกล่าวในสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด และพร้อมดูแลสนับสนุนคนไทยและชุมชนไทยในสหรัฐฯ ให้สามารถดำเนินชีวิตประจำวันและประกอบอาชีพของตนได้อย่างปลอดภัยและมีศักดิ์ศรีต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news