“สนธิญา” ยื่นศาลรธน.เพิ่ม คัดค้านนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต
“สนธิญา” ยื่นศาล รธน.เพิ่ม คัดค้านไม่เห็นด้วยต่อนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ของพรรคเพื่อไทย ชี้ขัดรัฐธรรมนูญ ฝ่าฝืน พ.ร.ป.เลือกตั้ง
นายสนธิญา สวัสดี เดินทางมายื่นเอกสารเพิ่มเติมให้ศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นคำร้องตรวจสอบของตน ที่เคยยื่นไปยังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ไปยังผู้ตรวจการแผ่นดินจำนวนกว่า 4 ฉบับ ตั้งแต่ ปี 2566 ก่อนการเลือกตั้ง 6 เดือน แสดงการคัดค้านไม่เห็นด้วยต่อนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ของพรรคเพื่อไทย ที่แจกคนไทย อายุ 16 ปี ขึ้นไป จำนวน 52-56 ล้านคน
นายสนธิญา กล่าวว่า เพื่อประกอบให้ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาวินิจฉัย การกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ฝ่าฝืน พ.ร.ป.เลือกตั้ง และพระราชบัญญัติยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อประกอบศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยตามที่ตนได้ยื่นร้องต่อศาลไปแล้ว เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 67 ที่ผ่านมา
โดยพรรคเพื่อไทยประกาศต่อประชาชน ว่าถ้าพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลพร้อมเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต เพื่อฟื้นเศรษฐกิจประเทศไทย การแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตให้คนไทย คนละ 10,000 บาท มองว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญปี 2560 ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทย และรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไม่มีการแจกเงินเป็นระบบดิจิตอลวอเลทแม้แต่บาทเดียวทั้งที่เป็นนโยบายรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยประกาศต่อประชาชนในการหาเสียงเลือกตั้งปี 2566 แต่เปลี่ยนมาแจกเงินสด ที่เปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์และกลุ่มบุคคลที่ได้รับ ที่เปลี่ยนแปลงไป
อย่างไรก็ตามตนอยากให้ศาลพิจารณาวินิจฉัยว่าพรรคเพื่อไทย โดยหัวหน้าพรรคหรือนางสาวแพทองธาร กระทำหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ หมวด16 การปฏิรูปประเทศไทย มาตรา 257 (1)”ไม่เป็นไปตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” และพรรคเพื่อไทยโดยนางสาวแพทองธารตั้งใจกระทำการที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญม.258 (2)(3) ที่ประกาศนโยบาย ไม่ได้วิเคราะห์ผลกระทบความคุ้มค่าและความเสี่ยงอย่างรอบด้านในนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตให้กับประชาชน อายุ16ปีขึ้นไป แต่ทำไม่ได้
ทั้งนี้หัวหน้าพรรคเพื่อไทยและสมาชิกพรรคเพื่อไทยย่อมรู้รายละเอียดด้านงบประมาณต่างๆในรายรับรายจ่ายประเทศยังเรียนอยู่แล้วเพราะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคเพื่อไทยเป็นผู้อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประเทศไทยผ่านสภาผู้แทนราษฎรในทุกๆปีที่ผ่านมาการที่ไม่สามารถดำเนินตามนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตได้ จึงเท็จต่อประชาชน ซึ่งเป็นการกระทำผิดต่อพ.ร.บการเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพ.ศ 2511 มาตรา 73 ( 1)(5)จึงเป็นความผิดมูลฐานว่าด้วยความผิด การฟอกเงิน(ปปง.)ด้วย และสุดท้ายอยากให้ศาลพิจารณาให้นางสาวแพทองธาร ยุติปฏิบัติหน้าที่ทุกกรณี จนกว่าศาลจะพิจารณาคดีแล้วเสร็จ ทั้งตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยและตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews