“พิพัฒน์” พัฒนาศักยภาพตรวจสอบการจ้างงาน แก้ค้ามนุษย์
“พิพัฒน์” เปิดโครงการพัฒนาศักยภาพตรวจสอบการจ้างงาน ป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ คุ้มครองแรงงานต่างด้าวไม่ให้ถูกละเมิดสิทธิ
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานพิธีเปิดโครงการพัฒนาศักยภาพคณะทำงานเฉพาะกิจตรวจสอบการจ้างงานสภาพการจ้างการบังคับใช้แรงงานหรือบริการและการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้ายในกลุ่มแรงงานต่างด้าว โดยมีนายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการอบรมในัวนนี้ด้วย
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า กระทรวงแรงงานดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์รวมถึงปัญหาผู้หลบหนีเข้าเมือง การกระทำต่อแรงงานต่างด้าว เพื่อการขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของรัฐบาลในการใช้กฎหมายแรงงาน เพื่อดูแลสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานในกลุ่มแรงงานต่างด้าวไม่ให้ถูกละเมิดสิทธิ โดยการบังคับใช้แรงงานค้ามนุษย์ และการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้าย
ซึ่งเป็นการทำงานเชิงรุกของเจ้าหน้าที่ โดยต้องมีความรู้ความเชี่ยวชาญ มีการเพิ่มศักยภาพด้านการป้องกันและปราบปรามให้แก่คณะทำงานเฉพาะกิจ เพื่อให้สามารถบังคับใช้กฎหมายได้ตามมาตรฐาน การปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพ กระทรวงแรงงานพร้อมที่จะทำงานร่วมกับทีมสหวิชาชีพ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน
นายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า ตนขอให้วิทยากรทุกคนจากกองปราบปรามการค้ามนุษย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ องค์การปกครอง กรมการจัดหางาน กรมสวัสดิการคุ้มครองแรงงาน ที่มาให้ความรู้ที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับผู้เข้าร่วมของโครงการทุกคน ซึ่งในโครงการนี้ตนเองก็ต้องขอบคุณทุกหน่วยงาน ที่เข้าร่วมโครงการ
ตนเองเข้ามาทำหน้าที่ตรงนี้ในระยะเวลา 1 ปีกว่าๆ ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ยุคนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ต่อเนื่องจนยุคนางสาวแพรทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเลยมีรอยต่อ ซึ่งโครงการนี้ได้มีการวางแผนกันมาค่อนข้างใช้ระยะเวลาพอสมควร เราจะมีการผ่อนผันนำคนต่างด้าวที่ไม่ถูกต้องตามกฏหมายนำมาขึ้นทะเบียน
อีกส่วนหนึ่งคือแรงงานที่ทำงานครบสองปี เราจะต่ออายุให้อีกสองปี ตาม MOU โดยหลังจากที่เราประกาศกฏหมายไปแล้วจะมีการอนุโลมให้กับแรงงานต่างๆที่ไม่ถูกต้องมาทำการขึ้นทะเบียนที่ถูกต้อง หลังจากที่พวกเรามีการอบรมเรียบร้อยแล้วก็จะมีการออกตรวจ ในเบื้องต้นอาจจะเป็นการออกตรวจที่เป็นเชิงลักษณะป้องปราบในเบื้องต้นสำหรับแรงงานต่างด้าว
นายพิพัฒน์ ระบุว่า แต่ที่เราดำเนินการทันทีได้เลยคือผู้ที่แย่งอาชีพคนไทย อะไรก็แล้วแต่ที่เป็นการแย่งอาชีพสำหรับคนไทย ตนว่าส่วนนี้ตนรับไม่ได้ เพราะฉะนั้นทีมงานหรือคณะกรรมการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่เราจะมีการอบรม ก็คงจะต้องทำงานและปราบปรามขั้นเด็ดขาด “จับคือจับปรับคือปรับการทำงานหน้าไหว้หลังหลอกเราคงไม่ทำ”
ส่วนแรงงานต่างด้าวมาที่ใช้สิทธิของคนไทย มาใช้การดูแลรักษาพยาบาลของคนไทยหรือเรียกว่าแย่ง ในส่วนนี้ตนคิดว่ามีสองส่วน ส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของประกันสังคม ซึ่งคนเหล่านี้จะอยู่ใน ม.33 ซึ่งแน่นอนในประกันสังคมเรามีโรงพยาบาลที่เป็นอนุสัญญา และอีกส่วนนึงคือสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) ซึ่ง 30 บาทรักษาทุกโรค เป็นสิทธิของแรงงานต่างดาวที่ไม่สามารถใช้ได้
แต่ถูกคนที่เป็นแรงงานต่างด้าวซื้อผ่านจากประกันในประเทศ ซึ่งจะมีการให้ไปรักษากับโรงพยาบาลรัฐซึ่งเราจะเห็นว่าโรงพยาบาลรัฐใช้สิทธิ 30 ได้ และมีแรงงานต่างด้าวไปร่วมใช้บริการอย่างหนาแน่น จึงทำให้เกิดความแออัด และทำให้ปชะชาชนคนไทยส่วนใหญ่ไม่อยากไปรักษา
ดังนั้นในส่วนตรงนี้กระทรวงแรงงานจะให้บุคคลที่อยู่ในม.33 ได้มีสิทธิทำประกันสังคมแต่บุคคลมี่เข้ามาทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายลงทะเบียนเรียบร้อยแต่ไม่ได้อยู่ในม.33 เราจะมีการบังคับ ให้ซื้อประกันสุขภาพ เพราะเมื่อซื้อประกันสุขภาพเรียบร้อย ทางบริษัทก็จะบอกได้ว่าสามารถรักษาได้ที่โรงพยาบาลไหนได้บ้างอย่างไรตามจังหวัดที่ผู้ซื้ออยู่
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews