ธอส. คาด สินเชื่อใหม่ปี67 ทะลุ 2.3 แสนล. พร้อม สานต่อนโยบายรัฐบาล หนุนคนไทยมีบ้านเพิ่มขึ้น ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม
นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส. ในฐานะสถาบันการเงินของรัฐ ที่มีพันธกิจ ในการทำให้คนไทยมีบ้าน
โดยตลอดระยะเวลา 71 ปีที่ผ่านมา ได้ทำให้คนไทยมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองมาแล้วมากกว่า 4.6 ล้านครอบครัว สามารถสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงการคลังในการช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยและปานกลางให้มีคุณภาพชีวิต และความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัย
โดย ล่าสุด ธอส. สามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้แล้วกว่า 200,856 ล้านบาท จำนวน 155,536 บัญชี ซึ่งในจำนวนนี้ เป็นสินเชื่อปล่อยใหม่สำหรับกลุ่มผู้มีรายได้น้อย และปานกลางวงเงินกู้ไม่เกิน 3 ล้านบาท สูงถึง 95,125 ราย สะท้อนว่า ธอส. เป็นธนาคารที่ตอบโจทย์ด้านสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยและปานกลางมาอย่างต่อเนื่อง
โดยปัจจุบัน ธอส. มีสินเชื่อคงค้างรวมทั้งสิ้น 1.78 ล้านล้านบาท ให้บริการผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่หลากหลายและตรงตามความต้องการของลูกค้า อาทิ สินเชื่อบ้าน 71 ปี ธอส., โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตน พ.ศ.2567, มาตรการสินเชื่อซื้อ-สร้าง และมาตรการสินเชื่อซ่อม-แต่ง
ทำให้คาดการณ์ทั้งปี 2567 ธอส. จะสามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ไม่ต่ำกว่า 230,000 ล้านบาท ขณะที่การจัดทำมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือน ปี 2567 และมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ผู้ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบด้านรายได้ให้กับลูกค้านั้น
ปัจจุบันมีลูกค้าลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการรวม 114,101 บัญชี คิดเป็นวงเงินต้นคงเหลือ 133,255.49 ล้านบาท โดยเชื่อว่ามาตรการดังกล่าวจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยรักษาบ้านให้คนไทย และทำให้หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของ ธอส. อยู่ในระดับที่เหมาะสมได้
สำหรับในปี 2568 ธอส. พร้อมดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงการคลัง ในการสนับสนุนคนไทยให้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองเพิ่มมากขึ้น
เพื่อช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม และขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืน ด้วยการเป็นที่ 1 ของสถาบันการเงินที่ปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยระดับราคาไม่เกิน
3 ล้านบาท โดย ธอส. คาดการณ์ปล่อยสินเชื่อใหม่ในปี 2568 ได้ไม่ต่ำกว่าปี 2567
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews