Home
|
ข่าว

โอนแล้ว! เงินช่วยไร่ละ 1 พัน วันแรกราบรื่น

Featured Image

 

 

โอนแล้ว! เงินไร่ละ 1 พันไม่เกิน10 ไร่ วันแรก ราบรื่น ยัน การปรับเกณฑ์เหลือไร่ละ 1พัน เพื่อลดช่องว่างและความเหลื่อมล้ำ

 

 

 

 

 

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และประธานกรรมการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. ได้เป็นประธานกิจกรรม “โอนเงินมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2567/68” ในโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2567/68 ในอัตราไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกินครัวเรือนละ 10 ไร่ โดยมี นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการ ธ.ก.ส. ผู้บริหารระดับสูง และเกษตรกร ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ โถงชั้น 2 อาคารทาวเวอร์ ธ.ก.ส. สำนักงานใหญ่

 

นายจุลพันธ์ ระบุว่า วันนี้ธ.ก.ส.ได้มีการโอนเงินเป็นวันแรก มีเป้าหมายเกษตรกรที่ได้รับประโยชน์ จำนวน4.61 ล้านครัวเรือน วงเงินรวม 37,414 ล้านบาท บรรเทาความเดือดร้อน และส่งเสริมให้เกษตรกรมีรายได้เพียงพอต่อการดำรงชีวิต ลดค่าใช้จ่ายในการเพาะปลูกข้าว และสนับสนุนให้เกษตรกรมีแรงจูงใจในการพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตข้าวให้มีคุณภาพมีมูลค่าเพิ่มและมีรายได้มากขึ้น

 

สำหรับในปีนี้ ธ.ก.ส.ได้ปรับเงื่อนไขโครงการ มาเป็นไร่ละ 1,000 ไม่เกินครัวเรือนละ 10,000 บาท เนื่องจาก ต้องการลดความเหลื่อมล้ำ ซึ่งจากฐานข้อมูลพบว่า โครงการนี้ ฯ มีผู้ที่ได้รับประโยชน์ ราว 4 ล้านราย มีสัดส่วนเกิน 70% เป็นกลุ่มที่มีพื้นที่เพาะปลูกต่ำกว่า 10 ไร่ ดังนั้น ในการลดช่องว่างดังกล่าวจะช่วยลดช่องหว่างความเหลื่อมล้ำ ระหว่างฐานะลงได้

 

จึงมีการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขโครงการลงมาเป็น10 ไร่ ซึ่งถือว่า มีความเหมาะสม และหลังจากที่ได้ดำเนินการมาได้เห็นถึงภาระงบประมาณที่ลดลง ส่วนหนึ่งเพราะกลุ่มคนจำนวนมากในหลายจังหวัดภาคเหนือเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่เพาะปลูกไม่มาก อาทิ เชียงราย เชียงใหม่ ที่มีพื้นที่พบปลูกไม่เกิน 10 ไร่หรือ 10 ไร่ต้นๆ และมีเพียงภาคเหนือตอนล่างบางส่วนที่มีพื้นที่มาก กว่า 10 ไร่จึง อาจทำให้รายได้ลดลงบ้าง

 

ทั้งนี้ ในการโอนเงินให้กับเกษตรกรนั้น ธ.ก.ส.ได้มีการโอนเงินไปตั้งแต่เมื่อช่วงเที่ยงคืนนี้ที่ผ่านมา โดยใช้ระยะเวลาในการโอนเงินประมาณ 1 ชั่วโมง เม็ดเงินประมาณกว่า 7 พันล้านบาท ขณะที่ในวันพรุ่งนี้ จะมีโอนเงินให้กับเกษตรกรอีกกว่า 2600 ล้านบาท

 

และในวันถัดไป จะเป็นกลุ่มภาคอีสานตอนบนอีกกว่า 1.08 หมื่นล้านบาท และอีสานตอนล่าง รวมถึงภาคใต้ ซึ่งจะครบ 3.7 หมื่นล้านบาทในระยะเวลา 5 วัน โดยการโอนเงินให้เกษตรกรเป็นไปด้วยความเรียบร้อยมีติดขัดบ้างเล็กน้อย แต่ทางสาขาจะเข้าไปเพื่อแก้ปัญหาให้เกษตรกรเป็นรายบุคคล

 

ส่วนกรณีที่เกษตรกรต้องการให้รัฐบาลเพิ่มเม็ดเงินช่วยเหลือเป็นไร่ละ 2000 บาทนั้น นายจุลพันธ์ ระบุว่า รัฐบาลยังไม่แนวโน้มที่จะเพิ่มเงินช่วยเหลือเกษตรกร เพราะการทำงานของรัฐบาลต้องดูองค์ประกอบให้ครบถ้วนทุกมิติ จึงจะสามารถตัดสินใจได้ ทั้งเรื่องการลดต้นทุนการผลิต การเพิ่มราคาสินค้าเกษตร เป็นต้น

 

ผู้สื่อข่าวถามกรณีการปรับเปลี่ยนหลักการของโครงการนี้ โดยการลดจำนวนไร่ลง เนื่องจากรัฐบาลจะต้องนำเงินไปใช้ในโครงการ กระตุ้นเศรษฐกิจภาคอื่นๆ ด้วยใช่หรือไม่ นายจุลพันธ์ ระบุว่า ตนไม่ได้พูดเช่นนั้น เนื่องจากรัฐบาลได้ทำภารกิจหลายอย่างคู่ขนานกัน ทั้งการเติมเงินไร่ละ 1000 บาท โครงการเติมเงิน 10,000 บาท โครงการ Wallet

 

หรือโครงการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางทำให้เม็ดเงินที่จะส่งถึงมือพี่น้องประชาชนมีหลายมิติรวมถึงเรื่องของการแก้ไขหนี้สินที่รัฐบาลได้เดินหน้าอยู่ในขณะนี้ ขอให้ประชาชนเร่งลงทะเบียนและติดตามการแก้ไขปัญหาหนี้ เนื่องจากปัญหาของประชาชนมึหลายด้าน จึงจำเป็นที่รัฐบาลจะต้องเดินหน้าแก้ไขในทุกมิติ เพื่อแบ่งเบาภาระให้แก่ประชาชนให้มากที่สุด

 

โดยวางแผนการโอนเงินส่งถึงมือเกษตรกรเป็นรายภูมิภาค จำนวน 5 รอบ ระหว่างวันที่ 16 – 20 ธันวาคม 2567 โดยรายละเอียดการโอนเงินให้เกษตรกร มีดังนี้

 

รอบที่ 1 วันจันทร์ที่ 16 ธันวาคม 2567 สำหรับเกษตรกรในพื้นที่ภาคเหนือ จำนวน 17 จังหวัด 9.57แสนครัวเรือน วงเงิน 7,302 ล้านบาท

รอบที่ 2 วันอังคารที่ 17 ธันวาคม 2567 สำหรับเกษตรกรในพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออก จำนวน 18 จังหวัด 2.96 แสนครัวเรือน วงเงิน 2,690 ล้านบาท

รอบที่ 3 วันพุธที่18 ธันวาคม 2567 สำหรับเกษตรกรในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน จำนวน 12 จังหวัด 1.37ล้านครัวเรือน วงเงิน 10,800 ล้านบาท

รอบที่ 4 วันพฤหัสบดีที่ 19 ธันวาคม 2567 สำหรับเกษตรกรในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง จำนวน 8 จังหวัด 1.40 ล้านครัวเรือน วงเงิน 11,822 ล้านบาท

และรอบที่ 5 วันศุกร์ที่ 20 ธันวาคม 2567 สำหรับเกษตรกรในพื้นที่ภาคตะวันตกและภาคใต้ จำนวน 22 จังหวัด 1.56 แสนครัวเรือน วงเงิน 1,303 ล้านบาท

 

ทั้งนี้ เกษตรกรสามารถตรวจสอบผลการโอนเงินได้ทางแอปพลิเคชัน BAAC Mobile ตลอด 24 ชั่วโมงหรือข้อความแจ้งเตือนเงินเข้าบัญชี ผ่านบริการ BAAC Connect ทาง Line: BAAC Family สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือCall Center 02 555 0555

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube