“เอกนัฏ” เมิน “ทักษิณ” เหน็บอีแอบ ยันอยู่ในห้องประชุมครม. พร้อมโหวตหนุน พ.ร.ก.2 ฉบับ ปัดตอบเป็น รทสช.หรือไม่ ชี้ ควรเอาเวลาทำงานเพื่อประเทศ ลั่น ทะเลาะกันเองเป็นสิ่งสุดท้ายที่ต้องทำ
นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ยืนยันว่า พรรคร่วมรัฐบาลยังทำงานขับเคลื่อนไปด้วยกัน และมีเป้าหมายเดียวกัน
อย่างตนเองเป็นรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจก็มองว่าประเทศไทยบอบช้ำจากสถานการณ์เศรษฐกิจและยังไม่ฟื้นจึงต้องทำงานร่วมกับภาคเอกชนเพื่อขับเคลื่อน เศรษฐกิจและทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้น เมื่อภารกิจหนักขนาดนี้ สิ่งสุดท้าย ที่ต้องทำคือทะเลาะกันเอง ใครจะว่าอย่างไรก็แล้วแต่ แต่ตัวเองจะให้คุยกับใครทำประโยชน์อะไรเพื่อส่วนรวม ตนก็ทำหมด
ส่วนกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุในงานสัมมนาพรรคเพื่อไทย ว่าไม่ชอบอีแอบจากกรณีที่มีรัฐมนตรีบางคนไม่ร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีว่าไม่ได้หมายถึงพรรครวมไทยสร้างชาติใช่หรือไม่ นายเอกนัฏ ยิ้ม ก่อนตอบว่า ตนไม่ทราบ
ส่วนการที่นายทักษิณออกมาพูดแบบนั้นจะส่งผลให้พรรคร่วมรัฐบาลหวาดระแวงหรือไม่ นายเอกอนัฏ ระบุว่า หากถามตนในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ตนอยู่ใน การเมืองมานานไม่เคยหวั่นไหวอะไรอยู่แล้วเพราะขณะนี้มีโจทย์มีภารกิจที่สำคัญ ที่ต้องทำ บางเรื่องที่เป็นเรื่องเล็กน้อยก็ปล่อยไป ที่สำคัญคืองานที่ต้องทำให้กับประเทศและงานก็ยากอยู่แล้ว ต้องทำแข่งกับเวลา ทางที่ดีก็ต้องจับมือกันทำงานให้ดีที่สุด
นายเอกนัฏ ชี้แจงต่อว่าในที่ประชุม ครม.วันดังกล่าวตนอยู่ในที่ประชุมและเป็นผู้ที่ยกมือสนับสนุนพระราชกำหนด 2 ฉบับเพราะมองว่าเป็นเรื่องสำคัญของประเทศและเกี่ยวเนื่องกับกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งจะรอช้าไม่ได้ และตนได้พูดในที่ประชุมว่าสนับสนุน และเป็นข้อสังเกตส่วนตัวด้วยในฐานะ ที่ตนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมขอว่าการใช้เงินกองทุนเพิ่มขีดความสามารถ ใช้สิทธิประโยชน์
ซึ่งจะเป็นอาวุธอีก 1 ตัว ในการนำเงินก้อนนี้ไปดึงนักลงทุนใหม่ๆมาได้ แต่สิ่งสำคัญคือเมื่อดึงมาแล้วประเทศไทยต้องได้ประโยชน์ เพราะฉะนั้นตนไม่คิดว่าจะมีปัญหาอะไร และก็อยากทำงานเต็มที่อยู่
สำหรับเรื่องจุดยืนร่างแก้กฎหมายพ.ร.บ. นิรโทษกรรมนั้น พรรครวมไทยสร้างชาติ มีจุดยืนชัดเจนมาตลอดซึ่งเป็นเงื่อนไขที่ร่วมรัฐบาลว่าต้องไม่สังฆกรรมกับผู้ที่จะออกกฎหมายเรื่องมาตรา 112 เพราะฉะนั้นเรื่องการนิรโทษกรรมต้องไม่ไปเกี่ยวข้องกับมาตรา 112 และการทุจริตรวมถึงอาญาร้ายแรงซึ่งเป็นจุดยืนที่พรรคแสดงไว้ก่อนที่จะเข้าร่วมรัฐบาล
ซึ่งทุกพรรคร่วมรัฐบาลที่รวมตัวกันเป็นรัฐบาลทุกวันนี้ ก็ให้เกียรติกับจุดยืนที่ประกาศไว้ และเป็นคำมั่นสัญญาตั้งแต่ต้น ตราบใดที่เป็นแบบนี้ ก็ ยืนยันเดินหน้าทำงาน ขอให้แยกกันออกก่อนขอเอาเวลามาร่วมกันทำงานเพื่อประโยชน์ของประเทศจะดีกว่า
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews