ครม.เห็นชอบนำเข้าข้าวโพดทำอาหารสัตว์เข้ามาเข้าประเทศ ตามความตกลงภายใต้เขตการค้าเสรีอาเซียน
นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง การนำข้าวโพดที่ใช้เป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์เข้ามาในราชอาณาจักรตามความตกลงภายใต้เขตการค้าเสรีอาเซียน สำหรับปี พ.ศ. 2568 พ.ศ. …. ตามที่กระทรวงพาณิชย์ (พณ.) เสนอ
นายอนุกูล กล่าวว่า ร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง การนำข้าวโพดที่ใช้เป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์เข้ามาในราชอาณาจักรตามความตกลงภายใต้เขตการค้าเสรีอาเซียน สำหรับปี พ.ศ. 2568 พ.ศ. …. เป็นการขยายระยะเวลาการนำเข้าข้าวโพดที่ใช้เป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์ตามความตกลงภายใต้เขตการค้าเสรีอาเซียน (ASEAN Free Trade Area: AFTA) สำหรับปี 2568 พิกัดอัตราศุลกากร ประเภทย่อย 1005.90.99 รหัสสถิติ 001 ซึ่งมีถิ่นกำเนิดและส่งตรงมาจากประเทศสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
โดยผู้นำเข้าจะต้องมีเอกสารหลักฐานประกอบการนำเข้า เช่น หนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (Form D) หรือหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Form D) เอกสารที่ปรากฏคำรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (Origin Declaration) ซึ่งจัดทำโดยผู้ส่งออกที่ได้รับการรับรอง (Certified Exporter) ได้แก่ ใบกำกับสินค้า (Commercial Invoice) หรือใบเรียกเก็บเงินค่าสินค้า (Billing Statement) และหนังสือรับรองหรือเอกสารหลักฐานอื่นใด ซึ่งแสดงว่าสินค้าที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นสินค้าที่มีความปลอดภัยต่อชีวิตหรือสุขภาพของมนุษย์ สัตว์ หรือพืช ที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐหรือหน่วยงานอื่นที่มีอำนาจออกหนังสือรับรองดังกล่าวของประเทศผู้ส่งออก ผู้นำเข้าจะได้รับสิทธิพิเศษทางด้านภาษีศุลกากร ในอัตราร้อยละ 0 ในกรณีองค์การคลังสินค้าเป็นผู้นำเข้า ต้องนำเข้าระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2568 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568 และต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดมาตรฐานควบคุมการนำเข้าตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมคุณภาพอาหารสัตว์
ทั้งนี้ ต้องนำเข้าทางด่านศุลกากรที่มีด่านตรวจพืชและด่านกักสัตว์ หรือมีเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจของด่านดังกล่าวปฏิบัติหน้าที่ และให้เสียค่าธรรมเนียมพิเศษในการนำเข้าในอัตราเมตริกตันละ 0 บาท โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มค.-31ธค.68
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews