Home
|
ข่าว

เคาะเพิ่มเฝ้าระวังลดอุบัติเหตุปีใหม่ เป็น 10 วันอันตราย

Featured Image

 

 

 

ที่ประชุมนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เคาะเพิ่มวันเฝ้าระวังจาก 7 เป็น 10 วันอันตราย 27 ธ.ค.67-5 ม.ค.68 พร้อม กำชับ ตั้งด่านชุมชนเพิ่มรณรงค์ดื่มอยู่บ้านลดอุบัติเหตุ

 

 

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการ นโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ ครั้งที่ 4/2567 ว่า เนื่องจากกำลังเข้าสู่ช่วงปีใหม่ 2568 ซึ่งจะมี ประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินทางกลับภูมิลำเนา จำนวนมาก ซึ่งที่ผ่านมาในปี 2567 มีประชาชนเสียชีวิตจำนวนมากเนื่องจากดื่มแอลกอฮอล์เกินขนาด มีอุบัติเหตุ 2,288 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 2,307 คน และเสียชีวิต 284 คน รัฐบาลจึงตั้งใจให้สถิติในช่วงปีใหม่ 2568 ลดลง

 

 

นายประเสริฐ กล่าวว่า ที่ประชุมจึงได้มีมติขยาย 7 วันเฝ้าระวังความปลอดภัยทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ จากเดิม 27 ธ.ค.67 -2 ม.ค.68 เพิ่มเป็น 10 วัน คือตั้งแต่ 27 ธ.ค.67- 5 ม.ค.68 เพราะการเดินทางกลับของประชาชนมีความสำคัญ ซึ่งเป็นความห่วงใยจากนายกรัฐมนตรี ที่ประชุมจึงมีแนวทางออกมา ดังนี้

 

 

1.การรณรงค์งดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อลดอุบัติเหตุ และผู้เสียชีวิต โดยเฉพาะผู้ขับขี่รถยนต์และรถจักรยานยนต์ ไม่มีภายใต้สโลแกน ‘ขับไม่ดื่ม ดื่มไม่ขับ’ และขอความร่วมมือแพลตฟอร์มต่างๆ ในการรณรงค์

 

 

2. การตั้งด่านชุมชน ด่านครอบครัวเพิ่มเติม จากการตั้งด่านของกำนันผู้ใหญ่บ้านในชุมชนที่มีอยู่แล้ว เพื่อป้องกันอุบัติเหตุทางถนน ให้เป็นไปตามเป้าหมาย ที่มีสาเหตุมาจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยจะขยายฐานชุมชนให้มากขึ้น

 

 

3.เข้มงวดผู้ขับขี่ทุกราย จะต้องมีการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ หากพบปริมาณแอลกอฮอล์เกินกว่า กฎหมายกำหนด ต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการสอบสวนขยายผลทุกกรณี โดยกำชับผ่านกรุงเทพมหานคร และศูนย์ความปลอดภัยทางถนนทุกจังหวัด

 

 

นายประเสริฐ กล่าวว่า เพื่อสร้างความปลอดภัยในชีวิตให้พี่น้องประชาชน ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งเป็นช่วงที่ความสุขของพี่น้องประชาชน อยากให้ประชาชนดื่มอยู่กลับบ้าน เพื่อลดอุบัติเหตุ

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube