Home
|
ข่าว

“จิรพงษ์” เตือน ผู้นำยาโครงการ 30 บาทฯตระเวนขายติดคุกหัวโต

Featured Image

 

 

 

จิรพงษ์ เตือน ผู้นำยาโครงการ 30 บาทฯตระเวนขายติดคุกหัวโต ชี้ สปสช.มีข้อมูลผู้รักษาหมดดำเนินคดีย้อนหลังได้ เผย กำลังติดตั้งระบบเตือนอัตโนมัติ เบิกยาถี่โดนแน่ เล็งชง ดำเนินคดี ตาม พ.ร.บ.ยา

 

 

 

นายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ รองโฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีที่มีผู้นำยาในโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่มาโพสต์ขายในโซเซียลว่า การแอบลักลอบจำหน่าย ตนขอเตือนว่า ติดคุกหัวโตทั้งคนขายและคนซื้อ โดยจากการที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยประกาศนโยบายทางด้านสาธารณสุข จาก 30 บาทรักษาทุกโรค ขยายเป็น 30 บาทรักษาทุกที่ เพื่อต้องการให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการรักษาตามโรงพยาบาลต่างๆของรัฐ รวมถึงโรงพยาบาลเอกชนที่เข้าร่วมโครงการได้ทุกที่ ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้ขับเคลื่อนนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ โดยเชื่อมต่อระบบฐานข้อมูลของโรงพยาบาลที่สังกัดทุกกรมฯในกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งภายในปีนี้ จะแล้วเสร็จ และจะประกาศผลสำเร็จในเดือน ม.ค.68 นี้

 

 

ซึ่งขณะนี้กำลังดำเนินหลักการเชื่อมต่อการถ่ายโอนข้อมูลผู้ป่วยระหว่างโรงพยาลที่สังกัดใน สธ. กับหน่วยงานสาธารณสุขต่างๆ ที่ไม่ได้สังกัด สธ. เช่นกับทางสถานบริการสาธารณสุขในการกำกับของกรุงเทพมหานคร โรงพยาบาลในกำกับของกระทรวงการอุดมศึกษาฯ และโรงพยาบาลเอกชน เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายการรักษาข้อมูลส่วนบุคคล PDPA ส่วนเรื่องของการช๊อปปิ้งยานั้น ไม่ได้เกิดการกระทำผิดขณะนี้เท่านั้น แต่ได้เกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้ จากระบบประกันสุขภาพต่างๆของรัฐ และผู้กระทำผิดก็ถูกดำเนินคดี ทั้งทางแพ่งและอาญามาแล้ว

 

 

นายจิรพงษ์ กล่าวว่า ตนขอเตือนผู้ที่จะใช้ช่องว่างกระทำการดังกล่าวว่า การรับบริการของหลักประกันสุขภาพแห่งชาตินั้น ต้องใช้บัตรประชาชนในการลงทะเบียนพิสูจน์สิทธิ และข้อมูลการรักษาการเบิกค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น ก็จะเข้าสู่ระบบการเงิน FDH ของ สปสช. ซึ่งสามารถตรวจทาน เพื่อตรวจจับผู้กระทำผิดได้ง่าย โดยขณะนี้ สปสช. ก็กำลังติดตั้งระบบเตือนอัตโนมัติเพิ่มเติม เพื่อรายงานความผิดปกติของจำนวนครั้งของการเข้ารับการรักษา และการเบิกยาของผู้ป่วย ทำให้บุคลากรทางการแพทย์สามารถตรวจจับการเบิกจ่ายที่น่าสงสัยได้อย่างรวดเร็วขึ้น

 

 

ซึ่งการทำที่ผิดกฏหมายดังกล่าวถือว่า เป็นความผิดตามประมวลกฏหมายอาญา หมวด 3 มาตรา 341-318 โทษจำคุกสูงสุดไม่เกิด 3-5 ปี มากไปกว่านั้นตนในฐานะอนุกรรมการในคณะอนุกรรมการกำหนดหลักเกณฑ์การดำเนินงาน ภายใต้คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จะเสนอให้ สปสช. ดำเนินการแจ้งความผู้กระทำผิดในฐานการกระทำผิดตาม พรบ.ยา พ.ศ. 2510 ซึ่งการขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต ฝ่าฝืนมาตรา 12 มีโทษตามมาตรา 101 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี รวมถึงบังคับใช้ความผิดตาม พรบ.คอมฯ อีกด้วย สำหรับผู้ซื้อยาจากผู้กระทำผิดขอให้ไปรับการรักษารับยาตามสิทธิฯที่ท่านมีอยู่ ไม่จำเป็นที่ต้องมาจ่ายเงินใดๆ โดยเฉพาะการใช้สิทธิบัตรทอง 30 บาทรักษาทุกที่

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube