“สนธิ” บุกทำเนียบ ทวงถามยกเลิก MOU44
“สนธิ-ปานเทพ-ทนายนกเขา” บุกศูนย์ร้องทุกข์ทำเนียบ ทวงถามยกเลิก MOU2544 หวั่นหากไทยเพรี้ยงพร้ำนำไปสู้ศาลโลก ประกาศหากไม่มีความชัดเจนปี 2568 เจาะบุก “รัฐสภา-กต.-ทร.”
นายสนธิ ลิ้มทองกุล พร้อมด้วยนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และมวลชน เดินทางมาที่ สนง.กพ. ตรงข้ามทำเนียบรัฐบาล เพื่อทวงถามคำตอบจากการยื่นหนังสือถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กรณียกเลิก MOU 2544 และJC 2544 ซึ่งมีการดำเนินการที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ขัดต่อพระบรมราชโองการฯ และฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติของกฎหมาย อันเป็นการสุ่มเสี่ยงต่อการสูญเสียเอกราช อำนาจอธิปไตย สิทธิอธิปไตย และบูรณภาพแห่งทะเลอาณาเขต เขตต่อเนื่อง และเขตไหล่ทวีป ของราชอาณาจักรไทย
โดยได้ครบกำหนด 15 วัน แล้ว ทางคณะรัฐมนตรียังไม่ได้แจ้งผลการดำเนินการตามที่ได้ร้องขอตามหนังสือที่อ้าง แต่ท่านกลับนิ่งเฉยและไม่ปรากฏคำสัมภาษณ์ว่าจะเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรีหรือจัดให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาเพื่อเสนอเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ อีกทั้งยังไม่ตอบรับใดๆว่าจะจัดให้มีเวทีสาธารณะเพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมรับรู้ในการตัดสินใจในปัญหาสำคัญของประเทศ ตามคำร้องขอในหนังสือตามที่อ้างถึง ซึ่งเป็นการกระทำที่สวนทางและขัดแย้งกับที่ท่านได้เคยให้สัมภาษณ์ว่า พร้อมจะพูดคุยกับข้าพเจ้าและมวลหมู่ประชาชน
ดังนั้น มวลหมู่ประชาชนจึงเห็นว่า หากท่านและคณะรัฐมนตรียังคงนิ่งเฉยต่อข้อเรียกร้องจนอาจทำให้ประเทศไทยต้องสูญเสียเอกราช อธิปไตย บูรณภาพแห่งทะเลอาณาเขต เขตต่อเนื่อง และเขตไหล่ทวีปซึ่งประเทศไทยมีสิทธิอธิปไตย ถือว่าท่านและคณะรัฐมนตรีได้กระทำการอันเป็นการตระเตรียมหรือสนับสนุนการกระทำความผิดที่จะทำให้ราชอาณาจักรไทย หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของราชอาณาจักรไทยต้องไปอยู่ในอธิปไตยของรัฐต่างประเทศหรือเพื่อให้เอกราชของรัฐเสื่อมเสียไป
รวมทั้งเห็นว่าทางนายกฯและคณะรัฐมนตรี มีพฤติการณ์บางประการที่ทำให้เห็นว่าได้ตระเตรียมการเพื่อคบคิดกับผู้นำของประเทศกัมพูชาด้วยความประสงค์ที่จะเป็นปรปักษ์ต่อรัฐ ทำให้รัฐได้รับความเสียหาย อันอาจเป็นการกระทำความผิดอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 119 และมาตรา 120 ประกอบกับมาตรา 128 และมาตรา 129 ตามที่อ้างถึง ซึ่งมวลหมู่ประชาชนจะได้ดำเนินการตามมาตรการทางกฎหมายและตามที่เห็นสมควรเพื่อปกป้องอธิปไตยและสิทธิอธิปไตยของราชอาณาจักรไทยต่อไป
จากนั้นเวลา 11.00 น.นายสนธิ นายปานเทพ และแกนนำ ได้ยื่นหนังสือทวงถามความคืบหน้า กรณีขอให้รัฐบาลยกเลิก MOU 44 และ JC 44 เนื่องจากขัดหรือแย้งต่อพระบรมราชโองการฯ และฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติกฎหมาย สุ่มเสี่ยงต่อการเสียเอกราชธิปไตย โดยมีนายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกเป็นตัวแทนรับหนังสือ
นายสนธิ กล่าวว่า การมาวันนี้เพราะไม่ยอมรับคำตอบของรัฐบาล ที่ตอบมาแบบง่ายๆ จากนี้จะรอให้ได้คำตอบ การเดินทางของกลุ่มมวลชนจะมีต่อไปจะเรียกร้องทุกเรื่องที่เกี่ยวกับชาติบ้านเมือง ด้วยมูลนิธิยามเฝ้าชาติบ้านเมือง และมีแพทย์หญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ อดีต สว. และนายคมสัน โพธิ์คง ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายปกครอง ขับเคลื่อน การก่อตั้งมูลนิธิยามเฝ้าชาติบ้านเมือง จะเรียกร้องไม่ใช่เพียง MOU44 เท่านั้น เพราะมีหลายประเด็นที่เหมือนเอาเท้าขยี้กฎหมาย เช่น ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ปัญหาเขากระโดง และปัญหาต่างด้าว โดยมีพรรคประชาชนชักศึกเข้าบ้าน
ด้านนายปานเทพ กล่าวว่า ในการประชุมครั้งนี้ตนได้ถามไปว่า ข้อแรกถ้าไม่มี MOU 2544 การเจรจาระหว่างไทยกับกัมพูชา จะเป็นไปตามกฎหมายทะเลสากล ที่ระบุว่าถ้าไม่มีเส้นเขตแดนอื่นให้ใช้เส้นมัธยะหรือเส้นกลางเท่านั้น คือ เส้นที่เป็นไปตามพระบรมราชโองการ ในสมัยรัชกาลที่ 9 ปี 2516
ข้อสองคือที่รัฐบาลบอกว่า ยังเป็นแค่กรอบการเจรจา แล้วพื้นที่พัฒนาร่วมตาม MOU 2544 ทำไมตกลงพื้นที่กันแล้ว รวมพื้นที่ 16,000 ตารางกิโลเมตร จะยุติเรื่องผลประโยชน์กันแล้วทั้ง ๆ ที่ตรงนั้นมีพื้นที่ไหล่ทวีปของประเทศไทยอยู่ไปแบ่ง ให้เป็นพื้นที่พัฒนาร่วมระหว่างไทยกับกัมพูชาได้อย่างไร เพราะแท้จริงพื้นที่ตรงนั้นเป็นของประเทศไทย
เมื่อถามว่าสุดท้ายแล้วได้คำตอบกลับมาว่าอย่างไร นายปานเทพ กล่าวว่า ที่ตนได้รับหนังสือตอบกลับมานั้นไม่ตรงคำถาม ให้รัฐบาลตอบกลับมาให้ตรงคำถาม หากกระทำความผิด ตนจะไปดำเนินคดีความต่อเอง วันนี้ได้รับคำตอบแค่ว่าเขารับรู้ว่าเราไม่เห็นด้วย นายกรัฐมนตรีเคยบอกว่า พร้อมจะพูดคุยกับนายสนธิ แต่เมื่อถึงเวลาบอกว่าเวทีสาธารณไม่ต้องเพราะมีศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์อยู่แล้ว ตกลงนายกนอกจากอ่านภาษาไทยไม่รู้เรื่องแล้ว ท่านยังจำความสั้นหรือเปล่า
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews