“ทักษิณ” ด่า ”ขาประจำ” ไล่ “พรรคเด็ก” สู้มือ

 

ซี๊ดปากไปทุก “ตำบล”คอการเมือง กับการทุ่มทุ่นสร้าง“ทิ้งทั้งตัว” กับการปิ๊กบ้านเกิด จ.เชียงใหม่ของ “ทักษิณ” “พ่อนายก”และ “ผู้นำจิตวิญญานเพื่อไทย” ในบท “ผู้ช่วยหาเสียง”ให้กับ “นายกก๊อง” ผู้สมัครนายกอบจ.เพื่อไทย

 

 

 

เมื่อวาน(23ธ.ค.)อันเป็นวันแรกที่มีการเปิดรับสมัครเลือกตั้งนายก อบจ.ที่ทั้งการให้สัมภาษณ์นักข่าว และการขึ้นปราศรัย แม้เป็นการ อู้คำเมือง ล้วนมีเนื้อหาแรง ดุดันไม่เกรงใจใครจนถูกวิจารณ์หนักว่า “หลุดฟอร์ม”และอาจเข้าเงี่ยง “ผิดกฎหมาย”การหาเสียงที่ห้ามใช้คำรุนแรง จากที่มีการใช้คำด่าถึง”บุพการี”ฝ่ายตรงข้ามที่คอยจ้อง “เจาะยาง”รัฐบาล ไม่นับรวมกับการ “ขู่เอาคืน”บรรดา “ขาประจำ”ที่ออกมา”กัดติด”ร้องเรียนเอาผิดรัฐบาล โดยบอกว่า คู่แข่งเพื่อไทย คือ พรรคประชาชน ที่โม้ว่ามีส.ส.7คน นั่น เป็นเรื่องที่ผิดพลาด ครั้งหน้าคนเชียงใหม่ต้องคืนส.ส.ให้เพื่อไทย

 

 

โดยยังบอกว่า พรรค ปชน.เป็นพรรคที่พูดเก่ง เด็กรุ่นใหม่ พูดเก่งแต่ทำไม่เป็นและไม่ได้ทำแต่เดี๋ยวนี้ด่าเก่งยันรัฐบาลจะอยู่ครบเทอม และเพื่อไทยก็เกิดมาเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจถ้ารัฐบาลนี้ทำงานกันต่อไปชาวเชียงใหม่ก็จะเป็นพ่อเลี้ยงกันหมดแล้วแต่ตอนนี้ไม่ได้เป็นพ่อเลี้ยงเป็นลูกที่เลี้ยง วันนี้เชียงใหม่เป็นภารกิจพิเศษตนกลับมาแล้วอย่างไรก็รักบ้านรักเมือง ต้องให้เชียงใหม่ดีเท่าที่ตนเป็นนายกฯหรือดีกว่า ให้ใช้ “ทักษิณ”กับ “ลูกทักษิณ”เขตไหนที่เลือกพรรคก้าวไกล คราวหน้าเลือกเพื่อไทย เอา สส.มาคืนตนและขออย่าให้ฟังเสียง “พวกขาประจำ”

 

 

โดยขู่ว่าต่อไปนี้ใครเล่นงานตน จะเล่นกลับหมด ไม่เอาไว้ป็นพ่อหรอก ก่อนขออาสาสมัครทนายความใครแหลมมาช่วยฟ้องแทนให้ทีเพราะมันน่ารำคาญ โดยบอกว่า บางคน ตนเคยให้ “ตังค์”ใช้ พ่อตนเคยสอนว่าบางคนเลี้ยงข้าวมื้อนึง มันขอบคุณ พอไม่เลี้ยงก็โดนมันกัด เอา จะให้เลี้ยงทุกมื้อ เห็นแล้วรำคาญขนาด
ขนาดลูกสาวโตแล้วเขาก็หากินเอง แต่นี่ยังไม่เลิก ทหารไม่ออกมาแล้ว เสียงเห่า ทำให้ต่างชาติมองว่า ประเทศไทยไม่มีเสถียรภาพ จึงไม่อยากมาลงทุน มาจากการร้องเรื่อยเปื่อย

 

 

ที่การออกมาด่าแรงของทักษิณก่อให้เกิดปฏิกริยาจากหลายฝ่าย ไม่แต่แค่ “พรรคเด็ก-ประชาชน”ที่ทั้ง “ไอติม”และ “เท้ง”ออกมาตอบโต้ ข้อกล่าวหา“พูดเก่ง แต่ทำไม่เป็น”ทำนอง “ทักษิณ”ควรไปสื่อสารกับรัฐบาลอิ๊งค์และรัฐบาลเศรษฐาที่ผ่านมาโดยยกตัวอย่างหลายนโยบายที่ยังไม่ประสบความสำเร็จ
ในขณะที่ “อ.สมชัย ศรีสุทธิยากร”อดีตกกต.อดไม่ได้ที่จะออกมาติง ว่า การปราศรัยของ “ทักษิณ”ที่ประกาศเป็นภาษาคำเมืองแบบ ดุดันทำนอง “แรงมาก็แรงไป คุณเล่นฉัน ฉันก็จะเล่นคุณบ้าง อย่าคิดว่าฉันหมูนะ คุณอย่ามาเล่นกับฉันมาก ฉันรำคาญ โคตร…อะไรนักหนา” โดย “อ.สมชัย”บอกว่า เป็นการปราศรัยที่ต่ำกว่ามาตรฐาน

 

 

ของการหาเสียงทั่วไป โดยพิจารณาจาก ระเบียบการหาเสียงเลือกตั้งท้องถิ่น พ.ศ. 2563 ข้อ 23(4)และไม่คิดว่า “ทักษิณ” จะถึงจุดที่ต้องใช้ถ้อยคำรุนแรงแบบนี้ หรืออาจจะมีเรื่องกดดัน อึดอัดใจมากเป็นพิเศษในขณะที่ “ทักิณ”ออกมาแจงวันนี้วันนี้ว่า เลือกตั้ง นายกอบจ.ต้องปราศรัยแบบดุดันเพื่อให้เห็นว่าเพื่อไทยเหนือกว่าพรรคเด็กปชน.

 

 

เรียกว่างวดนี้ถูกวิเคราะห์กันว่าเหตุที่ “ทักษิณ”มาแบบ “เต็มคาราเบล”หลังจากที่วันก่อนมีภาพ “ก๊วนกอล์ฟ”ทักษิณ-อนุทิน-สารัชถ์ ผู้บริหารกัลฟ์ฯ และ “คงกระพัน” CEO ปตท. โดยมีกระแสข่าวรายงานทำนองให้เข้าใจว่า นอกจากการตีความ เป็นการสยบความขัดแย้งระหว่าง ภูมิใจไทย เพื่อไทย “อนุทิน”ที่เป็นเพื่อนกับ ”สารัชถ์ รัตนาวะดี”กว่า25ปี และ “ทักษิณ”ที่ออกปากว่า “สารัชถ์”เป็นเพื่อน ชวนมาเจอกัน อย่างที่ “ทักษิณ” เอามาขยายที่เชียงใหม่ ว่า ระหว่าง ภท.กับ พท.ไม่มีอะไรแล้ว เป็นเรื่องลิ้นกับฟัน

 

 

ในขณะอีกกระแสวิเคราะห์ ไปถึงการ “ต่อดีล”ที่ยังคงใช้บริการทักษิณ ในขณะที่บางฝ่ายมองว่าเป็นเพียง “การแสดง”ของ “ทักษิณ”โดยเฉพาะจากที่วันก่อนมีการรวมกันเฉพาะกิจของ “กลุ่มขาประจำ-คนรู้ทัน”ที่ “ขาประจำ”ที่ทักษิณบอกจะตอบโต้กลับมีการวิเคราะห์ว่าหมายถึง “ตู่-จตุพร”ที่เมื่อวาน(23ธ.ค.) เพิ่งออกมาวิจารณ์ “รัฐบาลพ่อเลี้ยง”ขาดพ่อไม่ได้ เพราะลูกคำรามไม่ได้เหมือนกับพ่อ ส่วนพ่อครบเครื่องสามารถอาละวาดได้ ตบหัวแล้วจูบปากได้ในเวลามีพฤติกรรมไล่เลี่ยกัน

 

 

 

ซึ่งมีความสามารถเหนือคำบรรยาย และ คาดว่า หลังจาก 15 ม.ค. 68 ไม่เกิน 2 เดือนแพทยสภาคงมีผลการตรวจสอบจริยธรรมแพทย์ที่รักษา “คนชั้น14”ว่าป่วยจริงหรือป่วยทิพย์ส่วนปปช.จะมีความคืบหน้าเป็นระยะ ดังนั้น เวลาที่เหลืออยู่ของ “ทักษิณ”จึงแสดงอำนาจทางการเมือง ในสนาม นายก อบจ.ได้เต็มที่ และยังทำตัวเป็น “ร่างทรงนายกฯ” ที่มากบารมีเกรงขาม

 

 

 

ในขณะก็น่าสนใจกับที่ “ไพศาล”อดีตกุนซือรองนายกฯ“ลุงป้อม”ออกมาโพสFB ว่า ดีลลังกาวีรอบ 2 ล่มแล้วVIP จากไทยเดินทางไปไม่ได้ สงสัยว่า ไม่สามารถขออนุญาตศาลได้ เป็นเหตุให้ ต้องยกเลิกการพบปะระหว่างอันวาอิบราฮิมกับประธานาธิบดีอินโดนีเซีย โดยอ้างเหตุว่าป่วยฉุกเฉิน ก็แหกตากันไปเรื่อย ๆดังนั้นข่าวลือแอบอ้างเบื้องสูง จึงเป็นแค่ข่าวโคมลอยที่แหกตากัน ตามประสาเฒ่าสารพัดพิษ

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews