“พิชัย” โชว์วิชั่นพร้อมรับการลงทุนอุตสาหกรรมใหม่ทั่วโลก
“พิชัย” โชว์วิชั่น ที่สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาฯ ชูนโยบายรัฐบาลพร้อมรับการลงทุนอุตสาหกรรมใหม่ทั่วโลก เดินหน้าเจรจา FTA ต่อเนื่อง หลังปิดจบ FTA ไทย-เอฟตา ใน 3 เดือน
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้รับเชิญจากสถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวในวาระพิเศษ ในโอกาสที่สถาบันเอเชียศึกษาก้าวเข้าสู่ปีที่ 40 ในปี 2568 นี้ โดยสถาบันเอเชียศึกษา ร่วมกับ หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ ดำเนินโครงการ Asia Forwards Series จัดบรรยายพิเศษว่าด้วยกระบวนทัศน์ต่อเอเชียในอนาคต เป็นซีรีส์ต่อเนื่องตลอดทั้งปี 2568
โดยงานในวันนี้ จัดเป็นครั้งแรก ในหัวข้อ “Thailand-Australia: Opportunities and Challenges in a Volatile World” โดยนายพิชัย กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายเปิดกว้างด้านเศรษฐกิจการค้า ต้อนรับการลงทุนจากทุกประเทศ โดยมีเป้าหมายที่จะส่งเสริมการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมหลัก อาทิ อาหารและการเกษตรขั้นสูง ไทยมุ่งมั่นที่จะเป็นศูนย์กลางด้านอาหารสนับสนุนความมั่นคงด้านอาหารของโลก ในภาวะที่ประเทศต่างๆ ต้องเผชิญกับความไม่สงบและความผันผวน รวมถึงการให้ไทยเป็นฐานการผลิตในห่วงโซ่อุปทานอุตสาหกรรมแห่งอนาคต เช่น อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ PCB Data Center และ AI
กระทรวงพาณิชย์โดยกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ยังตั้งเป้าที่จะปิดจบการเจรจา FTA อีกหลายฉบับ มองว่าเป็นเครื่องมือสำคัญช่วยดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ สร้างรายได้ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยปัจจุบันไทยมีความตกลงการค้าเสรี (FTA) 15 ฉบับกับ 19 ประเทศ และในวันที่ 23 มกราคม 2568 ไทยจะลงนาม FTA กับสมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (เอฟตา) ซึ่งประกอบด้วย สวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ และลิกเตนสไตน์ ที่เมืองดาวอส ซึ่งจะเป็น FTA ฉบับแรกของไทยกับกลุ่มประเทศยุโรป
“รัฐบาลมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง เศรษฐกิจไทยโตต่ำมาร่วมทศวรรษ วันนี้ต้องโตอย่างน้อย 5% ต่อปี เพื่อให้หลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลาง FTA จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ที่ผ่านมา เศรษฐกิจไทยมีทิศทางที่ดี การส่งออก 11 เดือนแรกของปี 2567 มีมูลค่ากว่า 10 ล้านล้านบาท ขยายตัวถึง 5% สูงสุดเป็นประวัติการณ์ และการลงทุน 9 เดือนแรกของปี 2567 มีการยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนเป็นมูลค่าสูงถึง 720,000 ล้านบาท ขยายตัว 42% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นมูลค่าสูงสุดในรอบ 10 ปี“
อย่างไรก็ตาม ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ได้กำหนดทิศทางการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจที่ชัดเจน เน้นความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนกระทรวงพาณิชย์จึงได้ใช้หลักการทำงาน 80:20 โดย 80% ทำหน้าที่สนับสนุน สร้างความเข้มแข็งและขีดความสามารถในการแข่งขันให้ผู้ประกอบการและเกษตรกร และ 20% ทำหน้าที่กำกับดูแล เพื่อสร้างความเป็นธรรมในการทำธุรกิจการค้า ซึ่งตนพร้อมช่วยส่งเสริมผู้ประกอบการอย่างเต็มที่ ถ้ามีปัญหาให้มาพบกับ รมว.พาณิชย์ ได้เสมอ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews