Home
|
ข่าว

กมธ.โวยผบ.ตร.-ผบช.น. ไม่มาชี้แจงอบรมอาสาสมัครตำรวจจีน

Featured Image

 

 

กมธ.ตำรวจ จับตาคดี อบรมอาสาสมัครตำรวจคนจีน โวย ผบ.ตร.-ผบช.น. ไม่ยอมมาชี้แจง จี้เร่งสะสางคดีให้เกิดความชัดเจน

 

 

 

 

นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานกรรมาธิการ(กมธ.)การตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมกมธ. วาระการจัดอบรมอาสาสมัครตำรวจคนจีน ที่มีการเก็บเงินค่าอบรม 38,000 บาท โดยผู้เข้าอบรมได้ประกาศนียบัตรเป็นตำรวจอาสาสมัครตำรวจคนจีน พร้อมเสื้อกั๊กและบัตรติดตราสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

 

โดยนายชัยชนะ กล่าวว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการรับแจ้งข้อกล่าวหาของดร.ลี่ช่าง และ ลี่ หมิง หลง ใน 3 ข้อหา ได้แก่ 1.ใช้อุปกรณ์ ที่มีโลโก้ตราตำรวจ 2.ใช้ตราราชการตำรวจโดยไม่รับอนุญาต และ3.ใช้สัญลักษณ์สถาบันอุดมศึกษาโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมทั้งการโฆษณาในสื่อโซเชียลมีเดียที่มีสัญลักษณ์ของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หรือ CIB ซึ่งทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลได้แจ้งข้อหาตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เพิ่มเติมอีกหนึ่งข้อหา

 

นายชัยชนะ กล่าวว่า ทางกมธ.ตั้งข้อสังเกตถึงการออกบัตรอาสานั้น ตำรวจผู้เซนต์บัตรมีความผิดด้วยหรือไม่ ซึ่งเราไดรับคำชี้แจงจากพ.ต.อ. นิเวชร์ งามลาภ ผกก.สส.บก.น.3 ซึ่งเป็นเจ้าของลายเซนต์บนบัตรว่า ได้เซนต์เพียงบนใบประกาศนียบัตรเท่านั้น อาจจะมีการนำไปสแกนลงบัตรหรือไม่

 

ทางกมธ.จึงได้สอบถามถึงความผิดทางอาญา จากการเซนต์ใบประกาศในการอบรมหลักสูตรเถื่อนว่ามีความผิดหรือไม่ เพราะถือเป็นการยอมรับว่าหลักสูตรดังกล่าวถูกต้อง การสแกนลายเซนต์จากประกาศนียบัตรลงบัตร หากไม่ทราบก็คงเป็นไปไม่ได้ และหากบนบัตรมีลายเซนต์จะถือว่าผิดกฎหมายหรือไม่เพราะถือเป็นการปลอมแปลงเอกสารทางราชการ

 

นายชัยชนะ กล่าวว่า การสร้างหลักสูตรนี้ขึ้นมา ตนคาดการณ์ว่าเกิดจากการร่วมมือของนายลี่ชาง และข้าราชการตำรวจเพื่อหารายได้ ส่วนเงินจะเข้ากระเป๋าใครนั้นขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบเส้นทางการเงิน และผู้อบรมจำนวน 13 คนก็ยังไม่สามารถระบุตัวตนได้ จึงต้องส่งเรื่องให้ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(สตม.) ตรวจสอบต่อไป รวมทั้งตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้อบรมด้วยว่าเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมข้ามชาติหรือไม่ หากใครมีส่วนเกี่ยวข้องทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะดำเนินคดีทางอาญาต่อไป คาดใช้เวลาตรวจสอบไม่เกิน 15 วัน

 

ส่วนมหาวิทยาลัยสยามยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใช่หรือไม่นั้น นายชัยชนะ ระบุว่า มหาลัยยืนยันว่าไม่ทราบไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ทางกมธ.ได้ตั้งข้อสังเกตถึงแผนปฏิบัติที่ทางมหาวิทยาลัยต้องทราบ การขอใช้ห้องภายในมหาวิทยาลัย จะอ้างไม่ทราบว่าใครใช้ห้องไหนไม่ได้ แต่ทางมหาวิทยาลัยยอมรับว่าหละหลวมในเรื่องนี้

 

ด้านน.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.กทม.พรรคประชาชน กล่าวว่า ตนคาดหวังว่าผู้ชี้แจงจะเป็นระดับ ผบ.ตร. หรือ ผบ.ชน. มาชี้แจงด้วยตนเอง เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสำคัญ แต่ปรากฏว่าไม่มีใครมาเลย เนื่องจากตนได้นำหลักฐานเพิ่มเติมเข้ามามอบให้ทางกมธ. ซึ่งมีความเชื่อมโยง มีตัวละครเพิ่มขึ้น และเรื่องนี้ไม่ได้มีแค่ประธานสมาคมคนเดียวแน่นอน มีความเสียหายเกิดขึ้นแล้วแน่นอนและอาจจะไม่ได้เกิดแค่ภายในประเทศ

 

เพราะมีหลายคนที่ผ่านการอบรมหนีออกไปนอกประเทศไปแล้ว รวมถึงยังไม่ได้ความชัดเจนจากตำรวจจึงอยากเรียกร้องให้มีการดำเนินการในเรื่องนี้อย่างเร่งด่วนก่อนที่ความเสียหายจะมากเกินกว่าที่เราจะคาดการณ์ได้ และอยากให้ทางรัฐบาลให้ความสำคัญเพราะไม่ใช่เพียงแค่เรื่องความมั่นคงของตำรวจอย่างเดียว แต่รวมไปถึงความมั่นคงทางธุรกิจด้วย เพราะเป็นความเชื่อมั่นของนักลงทุน นักท่องเที่ยว ที่อาจจะรู้สึกว่าประเทศไทยไม่ปลอดภัย

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube