ซุกหนี้4พันล. ”นายกอิ๊งค์” ซ้ำรอยพ่อ
เป็นไปตามคาดจากหลายฝ่ายที่ประเมินว่าหลังการแสดงบัญชีทรัพย์สิน1.3หมื่นล.บาท ของ “นายกฯอิ๊งค์”ที่ใช้เวลารวบรวมส่งปปช.นานมาก เพราะต้องรอบคอบประกอบกับมีทรัพย์สินหลายรายการ
จะปรากฏ “ช่องโหว่”ให้ “นักร้อง” ระดับเซียนการตรวจสอบบัญชี อย่าง “เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ” สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ไปยื่นร้อง ปปช. ในวันนี้ (13ม.ค.) ด้วยการส่งไปรษณีย์EMS ถึง ปปช. ให้ตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของ “นายกอิ๊งค์” ที่ยื่นต่อ ป.ป.ช. กรณีเข้ารับตำแหน่งนายกฯ จากการตรวจสอบพบมีรายการควรตรวจสอบ
ได้แก่ เงินให้กู้ยืมของคู่สมรส คือ “นายปิฎก สุขสวัสดิ์” ที่ให้ “บริษัท วินน์ แคปปิตอล จำกัด” กู้ยืม 8 รายการระหว่างปี 2564-2567 รวม 12,770,000 บาท มีการแจ้งรายได้ดอกเบี้ย 383,100 บาท มีความถูกต้องสัมพันธ์กับข้อมูล บริษัท วินน์ แคปปิตอล จำกัด หรือไม่ บริษัทดังกล่าวมีทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาทมีผู้ถือหุ้นคนไทย 14 คน บริษัทฯ กู้ยืมเงินระยะสั้นจากกรรมการ 12.7 ล้านบาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ 3 ต่อปี กำหนดชำระคืนเมื่อทวงถาม
โดย “เรืองไกร” บอกว่า การที่ “นายกอิ๊งค์” แจ้ง ป.ป.ช. ว่า คู่สมรสมีรายได้ดอกเบี้ย 383,100 บาทจึงสอดคล้องกับรายการดอกเบี้ยร้อยละ 3 ของยอดเงินกู้ 12,770,000 บาท แต่มีข้อสังเกตคือ นายปิฎก ไม่ได้เป็นกรรมการหรือผู้ถือหุ้นบริษัท วินน์ แคปปิตอล จำกัด ทั้งที่บริษัทฯ ระบุว่า ยอดเงินกู้ 12,770,000 บาทเป็นเงินกู้ยืมจากกรรมการ ขอให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบรายการเงินให้กู้ยืมของคู่สมรสมีการแจ้งรายการถูกต้องหรือไม่ คู่สมรสเป็นกรรมการบริษัท วินน์ แคปปิตอล จำกัด หรือไม่ และมีการนำดอกเบี้ยไปเสียภาษีรวมกับรายได้อื่นครบถ้วนหรือไม่
เรียกว่าการยื่นร้องปปช.ของ “เรืองไกร” มีรายงานว่ายังเป็นเพียง “ออเดิร์ฟ” ในการเชื่อมโยงไปถึงการกู้ยืมอื่น ๆในกลุ่มพี่น้องทั้งจาก “โอ๊ค” และ “เอม” รวมถึง คุณลุงคุณอา และ “คุณแม่-พจมาน” ของ “นายกอิ๊งค์”ที่มีจำนวนประมาณ 4 พันล้าน ที่ถูกตั้งคำถามและครหาเมื่อมีรายได้จากการให้ขนาดนี้ถือเป็นเงินได้ที่ต้องเสียภาษีบุคคลธรรมดาราว1,500ล้านหรือไม่และวิธีการดังกล่าวจะเป็นการ ‘วางแผนภาษี’ หรือ “เลี่ยงภาษี” หรือไม่ ทำให้วันนี้ “นายกอิ๊งค์” ต้องออกมาแจง
กรณีมีการตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการทำ “นิติกรรมอำพราง” ว่า เป็นหนี้ระหว่างเครือญาติกัน ยืนยันว่าไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมายแถลงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไปหมดทุกอย่างแล้ว “ฉะนั้นมันจะอำพรางอะไรได้จุดนี้ ยืนยันว่าเป็นหนี้ระหว่างเครือญาติ มีตั๋วมีอะไรเรียบร้อยหมด” ส่วนกังวลหรือไม่จะซ้ำรอย “ทักษิณ” ที่เคยโดน “คดีซุกหุ้นภาค 2” หรือไม่นั้น ไม่กังวล เพราะไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย
โดย “นายกฯอิ๊งค์” ยังยืนยันกรณี “นายปิฎก” สามี ให้ “วินน์ แคปปิตอล จำกัด” กู้เงิน โดยที่ไม่เป็นกรรมการบริษัทจะมีปัญหาหรือไม่ ว่าจริงๆ เราแจ้งรายละเอียดแบบละเอียดยิบสามารถตรวจสอบได้ทุกอย่างเพราะมาถึงจุดนี้ต้องแจ้งให้ละเอียดที่สุด แล้วคำถามอะไรถ้า ป.ป.ช.มีเรื่องที่จะถามมาก็ยินดีพร้อมตอบอยู่แล้วจึงไม่ต้องกังวลอะไร จะตีความอะไรอย่างไรทางที่บ้าน
ทางทนายก็แจ้งทุกอย่างหมดเกลี้ยง ส่วนที่ “นายเรืองไกร”ไปร้องเรื่องนี้ กังวลหรือไม่ “นายกอิ๊งค์” หัวเราะตอบว่า “เรืองไกร อ๋อ แล้วสมมติว่าตัวตนก็ไม่ได้แม่นกฎหมายถ้ามีการข่มขู่ว่าจะต้องจ่ายนั่นนี่ เพื่อจะไม่ฟ้อง เพื่อจะอะไร อ้างลูกเรียนต่างประเทศผิดกฎหมายข้อไหนบ้างละเผอิญไม่ค่อยแม่นเรื่องกฎหมายเท่าไร ต้องช่วยกันแจ้งนิดหนึ่ง ไม่ทราบเหมือนกันว่ายังไง ผิดกฎหมายข้อไหนไหม ตนไม่ค่อยแม่นเท่าไรเรื่องนี้
ขณะที่ “ไพศาล” อดีตกุนซือ “รองนายกฯ-ลุงป้อม” โพสต์FB ว่า จากที่ สำนักข่าวอิศราพบข้อพิรุธการได้มาซึ่งทรัพย์สินของ “นายกอิ๊งค์” ส่อเป็นนิติกรรมอำพราง เสี่ยงที่จะ มีความผิดฐานแจ้งบัญชีทรัพย์สินเท็จและขาดจริยธรรม รวมทั้งมีปัญหาทางภาษีอากรด้วย และยังพบว่า การออกตั๋วสัญญาใช้เงิน 4,000 ล้านบาทนั้นเป็นตัวสัญญาใช้เงินประเภทเผื่อเรียกแต่ไม่มีดอกเบี้ย และไม่มีการเรียกเก็บเงินตามตั๋วสัญญาใช้เงินโดยไม่ได้รับประโยชน์ใดๆ ซึ่งถ้ามีการเรียกเก็บก็สามารถนำเงินไปฝากได้ดอกเบี้ยอย่างน้อย 1.5% ต่อปี และมองว่า เรื่องนี้คงจะเป็นวิบากกรรมใหญ่อีกเรื่องหนึ่ง ของนายก.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews