“พิพัฒน์” ถกอิสราเอล เปิดโควต้าจ้างแรงงานไทย
“พิพัฒน์” ถกอิสราเอล เปิดโควต้าจ้างแรงงานไทยเฉพาะเกษตรปี68 เพิ่มอีก 13,000 คน พร้อมให้ระบุแยกกลุ่มเกษตร ปศุสัตว์ เพื่อส่งตรงความต้องการ
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และคณะผู้บริหารกระทรวงแรงงาน หารือข้อราชการร่วมกับ Mr. AVI DICTER (อาวิ ดิคเตอร์) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและความมั่นคงทางอาหาร ณ นครเยรูซาเล็ม ประเทศอิสราเอล
โดยนายพิพัฒน์ กล่าวว่า ตนและคณะ เดินทางไปโมชาฟ Beit Hilkia โดยมี Mr. Avi Dicter รัฐมนตรีเกษตรและความมั่นคงทางอาหาร ต้อนรับเพื่อเยี่ยมชมฟาร์ม Leafresh (ฟาร์มปลูกผักไฮโดรโปนิกส์) พร้อมพบตัวแทนแรงงานไทย 15 คน ที่ได้เรียนรู้การเกษตรอัจฉริยะ เป็นการผลิตและจำหน่ายผักสดสุขภาพที่ปลูกในโรงเรือนที่มีลักษณะเฉพาะใช้เทคโนโลยีสำหรับปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ อาทิ จุดวัดค่า คุณภาพน้ำซึ่งควบคุมโดยระบบคอมพิวเตอร์ ประมวลผล คุมอุณหภูมิ ใส่ปุ๋ยและสารอาหาร หลังจากนั้นได้หารือร่วมกับมี Mr. Avi Dicter รัฐมนตรีเกษตรและความมั่นคงทางอาหาร โดยมีผู้แทนจากกระทรวงมหาดไทย
และผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศของอิสราเอล เข้าร่วมด้วยโดย Mr. Avi Dicter กล่าวขอบคุณรัฐมนตรีและคณะที่มาเยือนอิสราเอลและแจ้งว่าโควต้าการจ้างแรงงานไทยในภาคเกษตรเข้ามาทำงานในรัฐอิสราเอลในปี 2568 เพิ่มอีก 13,000 อัตรา
ด้านนายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้กระทรวงแรงงานมีความพร้อมที่จะจัดส่งแรงงานไทยมาทำงานในภาคเกษตรในรัฐอิสราเอล โดยขอให้ฝ่ายอิสราเอลพิจารณาจัดส่งความต้องการแรงงานจากนายจ้างแยกเป็น กลุ่มนายจ้างภาคเกษตร และภาคปศุสัตว์ เพื่อให้กรมการจัดหางานสามารถจัดส่งคนงานได้ตรงความต้องการของนายจ้าง เพื่อช่วยให้แรงงานไทยได้ทำงานตรงกับความสามารถ ทำงานได้อย่างต่อเนื่อง มีรายได้สามารถส่งเงินกลับไปให้ครอบครัวที่เมืองไทยได้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังเป็นการแก้ปัญหาแรงงานหลบหนีนายจ้างไปเป็นแรงงานผิดกฎหมายได้อีกด้วย โดยฝ่ายอิสราเอลเห็นด้วยและพร้อมจะให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ PIBA ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักเข้ามาช่วยดำเนินการ
นอกจากนี้ ได้เยี่ยมชมฟาร์ม Agrivoltaics เกษตรพลังงานสีเขียวในทุ่งหญ้าโดรัล ได้นำวิสัยทัศน์ของการเกษตรพลังงานแสงอาทิตย์มาสู่ประเทศอิสราเอลผ่านการพัฒนานวัตกรรมการเกษตรขั้นสูงและพลังงานแสงอาทิตย์ ให้สามารถดำรงอยู่ร่วมกันได้ การรวมระบบทั้งสองนี้ช่วยเพิ่มผลผลิตพลังงานไฟฟ้า และเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรอย่างมีนัยสำคัญก่อตั้งโครงการเมื่อปีพ.ศ. 2567 บนพื้นที่ประมาณ 94 ไร่นายจ้าง จ้างแรงงานทำงานในฟาร์มเกษตร และฟาร์มวัว รวม 74 คน แรงงานไทยมีรายได้ ประมาณเดือนละ กว่า 60,000 บาท โดยสามารถส่งเงินกลับให้ครอบครัวที่เมืองไทยประมาณเดือนละ 30,000 -40,000 บาท
อย่างไรก็ตาม ขอให้ฝ่ายอิสราเอลทราบว่ารัฐบาลไทยมีความห่วงใยพี่น้องแรงงานไทยที่ถูกจับกุมตัวไปเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 โดยยังมีแรงงานที่ไม่ได้รับการปล่อยตัว 6 ราย ขอให้ทางการอิสราเอลติดตาม ดูแลอย่างใกล้ชิดด้วย รวมถึงกรณีนายนิสันต์ มีรัมย์ ซึ่งเสียชีวิตขณะทำงานอยู่ในเขตเมตุลา ทางภาคเหนือของอิสราเอล เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2567 โดยขอให้ฝ่ายอิสราเอลติดตามสิทธิประโยชน์ให้ได้รับ เช่นเดียวกับแรงงานที่เสียชีวิตจากภัยสงคราม
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews