“อนุทิน”ห่วงโควิดระบาดคาด3สัปดาห์คลี่คลาย
“อนุทิน”ห่วงสถานการณ์แพร่ระบาดขอประชาชนร่วมมือ คาด 3 สัปดาห์คลี่คลาย ย้ำวัคซีนที่ใช้มีคุณภาพ จัดส.ส.-ส.ว.เป็นกลุ่มเสี่ยง ไม่ใช่อภิสิทธิ์ชน ขออย่านำเป็นประเด็นการเมือง ปัดรัฐปิดข่าว
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขระบุว่า กรมควบคุมโรค กำหนดให้สมาชิกรัฐสภาเป็นบุคคลที่สมควรได้รับวัคซีน เพราะ ต้องเดินทางกลับภูมิลำเนาหรือลงพื้นที่พบกับประชาชนเป็นจำนวนมาก การที่สมาชิกรัฐสภาได้รับวัคซีนก็จะได้รับความปลอดภัยกับคนอีกหลายกลุ่ม ขออย่าคิดว่าเป็นอภิสิทธิ์ชน ขณะที่วันนี้ มีสมาชิกพรรคก้าวไกล มารับการฉีดวัคซีนด้วย ทั้งนี้ ที่ตั้งข้อสังเกตถึงคุณภาพของวัคซีน ยืนยันว่า วัคซีนที่ประเทศไทยนำเข้ามาเป็นวัคซีนที่ปลอดภัย มีคุณภาพ คนที่ได้รับวัคซีนจะไม่มีอาการหนัก จนถึงขั้นเสียชีวิต และหากปฏิบัติตนตามปกติ ก็จะไม่มีการแพร่เชื้อ หรือไม่ติดเชื้อแน่นอน ขออย่านำมาเป็นประเด็นทางการเมือง เพราะนักการเมืองถือเป็นประชาชนคนหนึ่งที่สมควรจะได้รับวัคซีนเช่นกัน
ขณะเดียวกัน นายอนุทิน ยอมรับเป็นห่วงกับสถานการณ์การแพร่ระบาด ที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น จึงต้องขอความร่วมมือประชาชน เว้นระยะห่าง ใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือ บ่อยๆ ปฏิบัติตามมาตรฐานการป้องกันโรคของกระทรวงสาธารณสุข ใครที่ทำงานที่บ้านได้ก็ควรทำเพราะรัฐบาลเปิดช่องทางให้สามารถทำงานที่บ้านได้ ดังนั้นใครที่เดินทางกลับภูมิลำเนาไปแล้วก็ยังไม่จำเป็นต้องเดินทางกลับเข้ามาทำงานในกรุงเทพ การทำงานที่บ้านจะทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานเพิ่มมากขึ้น เพราะไม่ต้องรับแขก หรือไม่มีงานอื่นแทรก พร้อมยืนยันว่า เตียงผู้ป่วยมีเพียงพอ สำหรับผู้ที่ต้องการการรักษา แต่อาจจะไม่ได้สะดวกสบาย เหมือนกับโรงพยาบาลใหญ่ แต่ทุกหน่วยงานดำเนินการอย่างเต็มที่ เพื่อให้ทุกคนได้รับการรักษา โดยภายใน 3 สัปดาห์ ถึง 1 เดือน นี้ คาดว่า สถานการณ์การระบาดรอบนี้ ก็จะคลี่คลาย เพราะจะครบวงรอบของการติดเชื้อ หลังสั่งให้ปิด ผับ บาร์ สถานบันเทิงแล้ว ก็จะเป็นการปิดวงจร จุดเริ่มต้นของเชื้อได้การกระจายของเชื้อก็จะน้อยลง
อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่า รัฐบาล ไม่มีการปิดข่าว ตามที่มีนักการเมืองบางคน ตั้งข้อสังเกต เพราะความจริง ปิดบังกันไม่ได้ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีให้กำลังใจ และขอให้บุคลากรด้านสาธารณสุข ระมัดระวังตัวเป็นพิเศษ เพราะคนกลุ่มนี้จะป่วยไม่ได้ โดยภายในสัปดาห์หน้าจะต้องเร่งฉีดวัคซีนให้กับบุคลากรในระบบ สาธารณสุขให้ครบทั้ง 100 %
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news