“ประเสริฐ” ครม.ไฟเขียว พรก.ไซเบอร์ฯ คาดบังคับใช้กพ.
![Featured Image](https://www.innnews.co.th/wp-content/uploads/2025/01/ประเสริฐ-6-scaled.jpg)
“ประเสริฐ” ครม.ไฟเขียว พ.ร.ก.ไซเบอร์ฯแล้ว คาดประกาศใช้ก.พ.นี้ เพิ่มโทษเจ้าของแอพพลิเคชั่น – ธนาคาร – เครือข่ายมือถือ มีส่วนรับผิดชอบความเสียหาย เร่งคืนเงินผู้เสียหายเร็วขึ้น และปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์-อาชญากรรมไซเบอร์
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม แถลงหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีถึง ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ ร่างพระราชกำหนดป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ พ.ร.ก. โดยมีการแก้ไขเพิ่มเติมสาระสำคัญจากพระราชกำหนดฉบับเดิมใน 5 ประเด็น คือ 1.การกำหนดการรับผิดชอบ ของสถาบันการเงิน เครือข่ายมือถือ และสื่อสังคมออนไลน์ที่ต้องมีส่วนในการรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น หากไม่ดำเนินการตามมาตรการที่กำหนดไว้
2.กำหนดหน้าที่ของผู้ให้บริการระบบโทรคมนาคม ที่มีหน้าที่ระงับ การใช้งานซิมการ์ดที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดทันที
3.เร่งรัดกระบวนการคืนเงินให้กับผู้เสียหาย โดยเพิ่มหน้าที่ให้ธนาคาร ต้องส่งข้อมูล ที่เกี่ยวข้องกับบัญชีม้า ที่มีความเชื่อมโยง กับการกระทำความผิด ไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ป.ป.ง.เพื่อให้สามารถตรวจสอบ และสามารถคืนเงินให้กับผู้เสียหายได้เร็ว ซึ่งเดิมการคืนเงินให้กับผู้เสียหายจะต้องผ่านขั้นตอนของกระบวนการศาลซึ่งใช้เวลาประมาณหนึ่งถึงสองปี การแก้ไขพระราชกำหนดฉบับนี้จะทำให้สามารถคืนเงินให้กับผู้เสียหายได้เร็วขึ้นอยู่ที่ระยะเวลา 6 เดือนถึง 1 ปี
4.เพิ่มอำนาจการดำเนินการเกี่ยวกับแพลตฟอร์มการโอนทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ซึ่งแพลตฟอร์มไหนที่มีความเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดจะต้องมีส่วนในการรับผิดชอบ
5.เพิ่มบทลงโทษการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยแบ่งออกเป็นสองลักษณะ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ไม่ได้รับการยินยอมจากเจ้าของข้อมูล คือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแบบส่ง และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแบบการซื้อ-ขาย โดยมีโทษปรับสูงสุดถึง 5 ล้านบาทและจำคุกสูงสุดไม่เกิน 5 ปี
นายประเสริฐ บอกต่อว่า กฎหมายฉบับนี้ถือเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและจะสามารถป้องกันและปราบปรามได้มากยิ่งขึ้นที่ประชุม ครม. จึงได้อนุมัติในหลักการและให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา จากนั้นให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการับร่าง พ.ร.ก.ไปพิจารณาปรับรูปแบบ
โดยให้รับความเห็นหน่วยงานไปประกอบการพิจารณาสำหรับร่าง พ.ร.ก.ฉบับนี้หลัง ครม.เห็นชอบ และจะมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา จะมีผลบังคับใช้ทันที ซึ่งเลขาธิการกฤษฎีกา ระบุว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 30 วัน คาดว่าประกาศบังคับใช้ได้ในเดือน ก.พ.นี้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews