รบ.ห่วงโควิดพุ่งของดเดินทาง-เร่งหาวัคซีนเพิ่ม
รัฐบาลห่วงโควิดพุ่ง ของดเดินทาง ปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขเคร่งครัด เร่งหาวัคซีนเพิ่ม ยันมีศักยภาพเพียงพอ
นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวใน”ไทยคู่ฟ้า PODCAST” รัฐบาลเล่าเรื่อง โดยนารีสโมสรว่า หลายคนเดินทางกลับจากสงกรานต์แล้ว ขอให้ปลอดภัย เพราะช่วงนี้โควิดกลับมาระบาดอีกรอบ จึงขอความร่วมมือทุกคนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันอย่างเคร่งครัด ซึ่งภาครัฐก็มีนโยบาย ให้ราชการ WFH ให้ได้มากที่สุด รวมถึงขอความร่วมือภาคเอกชนให้หยุดเชื้อ เพื่อชาติ ด้วย ส่วนสถานการณ์ในไทย พบผู้ติดเชื้อกระจายไปในหลายจังหวัดเกือบทั่วประเทศ ตัวเลขพุ่งสูงขึ้นทุกวันโดยทางกระทรวงสาธารณะสุขได้เร่งรัดสืบสวนสอบสวนโรค เพื่อจำกัดวงของโรค ใครที่รู้ว่าตัวเองเป็นกลุ่มเสี่ยงไม่ว่าจะเสียงมากเสียงน้อยขอให้กลับตัวเป็นเวลา 14 วัน เพื่อสังเกตอาการ
สำหรับประเทศไทยสัปดาห์ที่ผ่านมา วัคซีนของซิโนแวคได้เข้ามาอีก 1,000,000 โดส โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีข้อสั่งการให้เร่งฉีดวัคซีนตามแผนที่กระทรวงสาธารณสุขได้วางไว้ โดย 600,000 โดส จะถูกจัดส่งไปยังบุคลากรทางการแพทย์และบุคลากรทางสาธารณสุข ซึ่งเป็นด่านหน้าทั่วประเทศ และตั้งเป้าว่าภายใน 1 เดือน บุคลากรเหล่านี้จะต้องฉีดวัคซีนครบโดส ทั้งนี้ วัคซีนหลักของไทยจะเดินทางมาในช่วงเดือนมิถุนายน ประมาณ 6-10 ล้านโดส จึงขอให้ทุกคนเชื่อมั่นว่ารัฐบาลและกระทรวงสาธารณะสุข
มีศักยภาพเพียงพอที่จะฉีดวัคซีนให้ครบทุกคน
พร้อมย้ำที่ประชุม ศบค. ชุดใหญ่ มีการประกาศข้อกำหนดต่างๆ เพื่อให้ประชาชนปฏิบัติตามในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด โดยขณะนี้พบยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ทวีคูณ และกระจายไปทุกจังหวัดอย่างรวดเร็ว ซึ่งมีที่มาและความสัมพันธ์จากสถานบันเทิง กิจกรรมการรวมกลุ่ม งานเลี้ยงสังสรรค์ ที่แพร่กระจายไปยังผู้สัมผัสในครอบครัว เพื่อน และที่ทำงาน เชื้อส่วนใหญ่ที่พบเป็นสายพันธุ์อังกฤษซึ่งความน่ากลัว จะแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว โดยช่วงสงกรานต์มีคนเดินทางมากขึ้น ก็เป็นเหตุผลที่ให้พบยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเช่นกัน ดังนั้น เพื่อเป็นการควบคุมสถานการณ์ให้ดีที่สุด ทางที่ประชุม ศบค. ได้ปรับระดับพื้นที่ของสถานการณ์ย่อย เป็นพื้นที่สีแดงคือพื้นที่ควบคุมสูงสุดมี 18 จังหวัด
ส่วนสีส้มเป็นพื้นที่ควบคุม 59 จังหวัด โดยมีมติให้ยกระดับ ในทุกจังหวัดอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ซึ่งข้อกำหนดต่างๆบังคับใช้ตั้งแต่ 18 เมษายนเป็นต้นไป อาทิ การปิดสถานบริการและสถานบันเทิง ห้ามจำหน่าย-ดื่มสุราในร้านอาหาร ห้ามกิจกรรมที่รวมกลุ่มกันเกิน 50 คน แต่หากมีความจำเป็น ให้ไปขออนุญาตจากคณะกรรมการ
โรคติดต่อจังหวัด ห้ามจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ งดการเรียนการสอนในห้องเรียน ปิดสวนสนุกงดเล่นเครื่องเล่นในห้างสรรพสินค้า ส่วนร้านอาหารถ้าเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด จะเปิดได้ไม่เกินสามทุ่ม และถ้าเป็นพื้นที่ควบคุมเปิดได้ไม่เกินห้าทุ่ม
อย่างไรก็ตาม การสั่งเปิดหรือปิดพื้นที่ใดอาจมีมาตรการเพิ่มเติม โดย ศบค. ให้อำนาจผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นคนประกาศเพิ่มเติมได้ทันที สำหรับการเดินทาง ขณะนี้รัฐบาลขอความร่วมมือ กับประชาชนให้งดหรือชะลอการเดินทาง โดยไม่มีเหตุจำเป็นเช่นหลีกเลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่ควบคุมสูงสุดซึ่งอาจทำให้ติดเชื้อโรคได้
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีมีข้อสังการเพิ่มเติมให้ทุกจังหวัดเร่งหาโรงพยาบาลสนาม เพื่อให้ครอบคลุมทั่วประเทศ สำรองไว้ ไม่ว่าจะใช้หรือไม่ได้ใช้ก็ตาม เพราะต้องมีการประเมินสถานการณ์ รองรับให้พร้อม
ทั้งนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เปิดเผยต่อที่ประชุม ศบค. ว่า ขณะนี้วัคซีนแอสตร้าเซเนก้า ได้มีการปรับปรุง วัคซีนให้มีประสิทธิภาพครอบคลุมไปถึงสายพันธุ์บราซิลและเซาท์แอฟริกาด้วย พร้อมยืนยันว่า วัคซีนแอสตร้าเซเนก้าที่ผลิตในไทย จะออกมาให้ทันใช้ในเดือนมิถุนายนตามแผนแน่นอน
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ร่วมมือร่วมใจกันต่อสู้กับ โควิด-19 เพราะต่อสู้มาปีกว่าแล้ว แม้จะมีการระบาดหลายละลอกก็สามารถควบคุม และเอาอยู่ด้วยความร่วมมือของประชาชนทุกคน ครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน แม้ว่าความก้าวหน้าทางการแพทย์ ทางวิทยาศาสตร์และวัคซีนจะมีเพิ่มมากขึ้น แต่ไม่สามารถทำ
ให้เราหยุดเชื้อได้ ดังนั้น จึงขอให้ร่วมมือให้ปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news