ศบค. ขอผู้ประกอบการให้ความร่วมมือตามมาตรการใหม่อย่างพร้อมเพรียง เข้มงวด ควบคุมการแพร่ระบาดเชื้อโควิด
นายเเพทย์ ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศูนย์บริหารสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) (ศบค.) กล่าวว่าเมื่อวานนี้ได้มีราชกิจจานุเบกษาประกาศยกระดับการควบคุมการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งการปรับระดับมาตราการป้องกัน ตอนนี้ไม่มีเคอร์ฟิวแต่แปลงเป็นมาตราการแทน โดยใช้เป็นจำกัดที่หมายและลดการเคลื่อนย้าย ในส่วนของพื้นที่ควบคุมสูงสุดสีแดงให้มีมาตรการดังนี้ ให้ร้านอาหาร
ร้านกาแฟเครื่องดื่ม เปิดรับประทานในร้านได้ไม่เกิน 21.00 น. แต่ให้ซื้อกลับได้จนถึง 23.00 น. ,ห้ามจำหน่ายและดื่ม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในร้านโดยเด็ดขาด ส่วนห้างสรรพสินค้า ให้เปิดได้ถึง 21.00 น. ซึ่งต้องจำกัดจำนวนผู้ใช้บริการ แต่ปิดโซนสวนสนุกและตู้เกม ต่างๆ เป็นต้น ขณะที่ร้านค้า ถนนคนเดิน ซุปเปอร์มาเก็ตฯที่เคยเปิด24 ชม. ให้เปิดบริการได้ตั้งแต่ 04.00 – 23.00 น. นอกจากนี้ สนามกีฬากลางแจ้ง ยิมฯฟิตเนส ให้สามารถเปิดได้ไม่เกิน 21.00 น.
ขณะที่พื้นที่ควบคุมสีส้ม ให้มีมาตรการดังนี้ สามารถ นั่งรับประทานอาหารในร้านได้ถึง 23.00 น. แต่ห้ามขายและดื่ม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้าน ขณะที่ห้างสรรพสินค้า ให้เปิดได้ถึง 21.00 น. แต่ต้องจำกัดจำนวนผู้ใช้บริการ พร้อมปิดโซนสวนสนุกตู้เกม ต่างๆ เป็นต้น ส่วนร้านค้า ถนนคนเดิน ซุปเปอร์มาเก็ต และ สนามกีฬาเปิดได้ตามปกติ แต่ต้องมีมาตรการป้องกันเข้มงวด
ทั้งนี้จำกัดจำนวนการรวมกลุ่มกันไม่เกิน 50 คน และหวังว่าคืนนี้ จะได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการทั้งหลาย อยากเห็นความพร้อมเพรียง ในการร่วมมือกันของทุกคน อย่างไรก็ตาม การทำงานของภาครัฐจะต้องเต็มรูปแบบเช่นเดิม คือการดูแลประชาชนจะต้องไม่ขาดตกบกพร่อง และการทำงานจะต้องมีประสิทธิภาพเช่นเดิม
ศบค.แจงให้ผู้ป่วยหนักนอนรพ. ส่วนผู้ป่วยที่ไม่หนักหรือไม่มีอาการให้ไป รพ.สนาม เร่งทำความเข้าใจประชาชน
นายเเพทย์ ทวีศิลป์ ยังกล่าวถึงโรงพยาบาลสนาม ว่า เดิมใช้ระบอบการแอดมิทโรงพยาบาล แต่ขณะนี้คนป่วยมากกว่ารอบอื่น และผู้ที่จะนอนโรงพยาบาลก็ควรจะเป็นผู้ป่วยที่หนักสำหรับผู้ป่วยที่ไม่หนักหรือไม่มีอาการ ก็สามารถไปอยู่โรงพยาบาลสนามได้ โดยโรงพยาบาลสนามสะดวกสบาย เพื่อให้ผู้ติดเชื้ออยู่ร่วมกันได้ นอกจากนี้ยังประหยัดทรัพยากรบุคคลในการดูแลผู้ป่วยด้วย ส่วนผู้ป่วยที่ติดเชื้อขอได้โปรดให้เข้าใจ และให้ความร่วมมือ หลังจากนี้จะประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสื่อสารกับประชาชน ให้เข้าใจร่วมกันว่าทุกรายที่ติดเชื้อจะต้องแยกกัก
อย่างไรก็ตาม ภาครัฐกำลังเข้มแข็งและออกมาตราการต่างๆ อย่างเต็มที่ สิ่งที่ต้องการคือผู้ประกอบการร่วมมือตามมาตราการ และประชาชนก็มีส่วนสำคัญร่วมมือร่วมใจปฏิบัติตามมาตราการ กราฟผู้ติดเชื้อก็จะลดลงภายใน 14 วันหลังจากนี้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news