“อัครา” ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำเศรษฐกิจ สร้างแหล่งอาหาร

“อัครา” ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำเศรษฐกิจ สร้างแหล่งอาหาร สร้างรายได้เกษตรกร และลดฝุ่น PM 2.5
นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำโครงการบริหารจัดการทรัพยากรประมง กิจกรรมบริหารจัดการทรัพยากรประมงน้ำจืด การเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำในแหล่งน้ำชุมชนเพื่อเพิ่มรายได้และลดค่าครองชีพของประชาชา ประจำปี 2568 ณ อ่างแฝด หมู่ที่ 8 บ้านใหม่ดอนชัย ต.ยางคราม อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่
โดยกิจกรรมในวันนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดการเผาลดการเกิดมลพิษลดฝุ่น PM 2.5 เนื่องจากในกิจกรรมดังกล่าวจะใช้ฟางข้าวเป็นอาหารธรรมชาติ จำนวนไม่น้อยกว่า 1,000 กิโลกรัม เพื่อนำเลี้ยงสัตว์น้ำจืดเศรษฐกิจ จำนวน 7 ชนิด ได้แก่ ปลาเกล็ดเงิน (ปลาจีน) ปลายี่สกเทศ ปลาตะเพียนขาว ปลาบ้า ปลานิล และปลาบึก จำนวน 37,600 ตัว และพันธุ์กุ้งก้ามกราม จำนวน 1,000 ตัว รวมทั้งสิ้น 38,600 ตัว และในอนาคตจะมีการปล่อยกุ้งก้ามกรามเพิ่มอีก 40,000 ตัว
นอกจากนี้ ในกิจกรรมดังกล่าวจะมีการขยายผลสู่แหล่งน้ำปิดของชุมชนอื่น ๆ (ขนาด 10 – 60 ไร่) ทั่วประเทศอีก รวม 1,500 แหล่งน้ำ (พื้นที่ประมาณ 47,268 ไร่) ใน 70 จังหวัด รวมทั้งโครงการจะปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำจืดเศรษฐกิจ รวมจำนวนทั้งสิ้น 116.4 ล้านตัว (77,600 ตัว/แหล่งน้ำ) และจะใช้ฟางข้าวเป็นอาหารสัตว์น้ำที่ปล่อยลงไปทั้งหมด
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวจะใช้ฟางข้าวรวมแล้วไม่น้อยกว่า 37,814 ตัน ช่วยเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำจืดเศรษฐกิจในแหล่งน้ำชุมชนได้ไม่น้อยกว่า 10,100 ตัน คิดเป็นมูลค่ามากกว่า 539.5 ล้านบาท (กุ้งก้ามกราม ประมาณ 300 ตัน มูลค่า 165 ล้านบาท ปลาน้ำจืดเศรษฐกิจ ประมาณ 9,800 ตัน มูลค่า 374.5 ล้านบาท) ที่สำคัญจะทำให้เกษตรกรมีองค์ความรู้ในการจัดการวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรได้อย่างเหมาะสมและเกิดประโยชน์ในระยะยาวทั้งด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อม สามารถช่วยลดการเผาฟาง ลดปริมาณคาร์บอนได้กว่า 18,529 กิโลกรัมคาร์บอน และลดการเกิดฝุ่น PM 2.5 ได้มากกว่า 2,750 ตัน
“กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พร้อมขับเคลื่อนการดำเนินงานในการสร้างความมั่นคงทางอาหาร ซึ่งเป็นนโยบายหลักของรัฐบาล ซึ่งกิจกรรมการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำจืดเศรษฐกิจในวันนี้ จะสามารถเป็นแหล่งอาหารและสร้างรายได้ให้กับชุมชนโดยรอบแหล่งน้ำ รวมทั้งเพื่อให้ชุมชนเกิดความรักและความสามัคคีในการร่วมกันบริหารจัดการแหล่งน้ำเพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน อย่างไรก็ตาม กระทรวงเกษตรฯ มุ่งมั่นที่จะยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องเกษตรกร โดยทุกโครงการจะต้องมาจากการสะท้อนปัญหาของพี่น้องเกษตรกร เพื่อให้สามารถแก้ไขได้ตรงตามความต้องการอย่างแท้จริง”
ด้าน นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า กรมประมง มุ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่า โครงการดังกล่าวจะสามารถช่วยแก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 ได้อย่างจริงจัง และช่วยส่งเสริมเพิ่มรายได้ลดค่าครองชีพให้กับเกษตรกรและประชาชน ตลอดจนเพิ่มจำนวนประชากรสัตว์น้ำประจำถิ่นรุ่นใหม่ในธรรมชาติและสัตว์น้ำที่ไม่สามารถหาพื้นที่ที่เหมาะสมตามธรรมชาติในช่วงฤดูผสมพันธุ์และวางไข่ได้
ช่วยฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจในแหล่งน้ำให้คืนความอุดมสมบูรณ์ให้กับชุมชนเป็นการสร้างแหล่งอาหารโปรตีนด้วยการมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการทรัพยากรประมงโดยชุมชนเพื่อชุมชน กลายเป็นแหล่งประกอบอาชีพให้กับเกษตรในพื้นที่ สามารถเพิ่มรายได้ ลดค่าครองชีพ ช่วยให้เกิดความมั่นคงในชีวิต สอดรับกับนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่มุ่งหมายให้ทรัพยากรมีความยั่งยืนควบคู่ไปกับคุณภาพชีวิตพี่น้องเกษตรกรต้องมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น “ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว ในกระเป๋ามีตังค์”
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews