Home
|
ข่าว

“ชวน”ยังไม่ฉีดวัคซีน-โควิดไม่กระทบพิจารณากม.สำคัญ

Featured Image
“ชวน” ยังไม่ฉีดวัคซีน ร่างแก้ รธน. รอเปิดสมัยประชุมก่อน มั่นใจสถานการณ์โควิด ไม่กระทบพิจารณากฎหมายสำคัญ

นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงมาตรการป้องกัน COVID-19 ภายในรัฐสภา ที่ข้าราชการเริ่มกลับมาทำงาน หลังพ้นวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ว่า ยังคงเน้นย้ำมาตรการการป้องกันภายในรัฐสภาอย่างเข้มงวด และให้ข้าราชการส่วนหนึ่ง ปฏิบัติหน้าที่ที่บ้าน ส่วนการฉีดวัคซีนให้ ส.ส. นั้น ขณะนี้วัคซีน COVID-19 ยังคงมีไม่เพียงพอ จึงได้หารือกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนให้กับ ส.ส.

ซึ่งได้รับคำชี้แจงว่า ภายในสัปดาห์นี้ บุคลากรทางการแพทย์ที่มีความเสี่ยงสูงกว่า ส.ส. น่าจะได้รับการฉีดวัคซีนจนครบถ้วนจากนั้นก็จะกระจายไปกลุ่มเสี่ยงอื่นๆได้ ซึ่งส่วนตัวยังไม่ได้ฉีดวัคซีนเช่นกัน เนื่องจาก ต้องการรอให้บุคลากรทางการแพทย์ได้ฉีดจนครบถ้วนก่อน

สำหรับการบรรจุญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคพลังประชารัฐ เข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมของรัฐสภานั้น นายชวน ระบุว่า จะต้องรอเปิดประชุมสภาสมัยสามัญ ในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้ก่อน จากนั้นจะใช้เวลา 15 วัน ในการพิจารณาเพื่อบรรจุญัตติดังกล่าว แต่จะจัดการประชุมเมื่อใดนั้นต้องรอพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง เช่นเดียวกับการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ที่หากรัฐสภามีความพร้อม ก็สามารถพิจารณา
ต่อในวาระที่ 2 ได้ทันที

ส่วนการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 ในวาระแรกของสภาผู้แทนราษฎรนั้น ยังไม่ได้กำหนดวันและระยะเวลาในการพิจารณา แต่ได้ขอความร่วมมือให้คณะรัฐมนตรี เร่งส่งร่างงบประมาณดังกล่าวยังสภาล่วงหน้า เพื่อให้ ส.ส.ได้พิจารณา ศึกษารายละเอียดงบประมาณก่อน และเพื่อให้สามารถพิจารณาได้ทันตามกรอบที่สำนักงบประมาณกำหนด แต่ขณะนี้ได้ช่วยพิจารณาติดตามดูเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณของรัฐบาล ที่มีข้อเสนอไปยังสำนักงบประมาณแล้วว่า งบส่วนที่ไม่มีความจำเป็น

เช่น งบดูงาน งบไปต่างประเทศ ก็ให้จัดสรรไปที่หน่วยงานที่มีความจำเป็น โดยไม่ต้องรอการแปรญัตติ พร้อมมั่นใจว่า สถานการณ์ COVID-19 จะไม่กระทบต่อการพิจารณากฎหมายสำคัญรวมถึงร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี เนื่องจาก ส.ส.ยังคงต้องทำหน้าที่ต่อไป เพราะสถานการณ์ COVID-19 จะยังไม่น่าจะจบลงง่ายๆ ดังนั้น ทุกคนต้องเฝ้าระวังตัวเองเสมอ และยังต้องทำหน้าที่ต่อไป

 

 

มติวิป ส.ว.วางมาตรการป้องโควิด 19 สั่งงดประชุมกรรมาธิการ -อนุกรรมาธิการ พร้อมชะลอการลงพื้นที่โครงการ ส.ว.พบประชาชน

นายคำนูน สิทธิสมาน โฆษกกรรมาธิการกิจการวุฒิสภา วิปวุฒิสภา กล่าวภายหลังการประชุมวิปวุฒิสภาถึงมาตรการรับมือการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19โดยที่ประชุมมีมติขอความร่วมมือคณะกรรมารธิการ อนุในาวน สว.งดประชุม จนถึงสิ้นเดือนเมษายนนี้ รวมทั้งการประชุมผ่านระบบออนไลท์เนื่องจากต้องให้เจ้าหน้าที่ประสานทำงานเข้ามาในพื้นที่อาคารรัฐสภา และขอความร่วมมือสมาชิกให้ใช้ความระมัดระวังในการพบประชาชน

ส่วนโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชนที่มีการลงไปในแต่ละพื้นที่นั้น ที่ประชุมเห็นควรจะงดการลงพื้นที่ออกไปก่อน แต่ยังคงรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนโดยพลเอกสิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภาคนที่หนึ่ง ในฐานะผู้รับผิดชอบจะเป็นผู้ประสานดูแลรายละเอียด

นอกจากนี้นายคำนูณ ยังกล่าวถึงกรณีที่มีพนักงานราชการ ฝ่ายบริการ ตรวจพบว่ามีการติดเชื้อโควิค 19 นั้นนายนัฑ ผาสุข เลขาธิการวุฒิสภา ยืนยันต่อที่ประชุมว่ามีการดูแลเจ้าหน้าที่อย่างดีรวมทั้งบุคคลกลุ่มเสี่ยงอย่างใกล้ชิด

โดยได้มีการตรวจหาเชื้อและกักตัวตามมาตรการ รวมทั้งบุคลากรของวุฒิสภาที่เดินทางไปต่างจังหวัด ได้ให้เริ่มWFH หรือตรวจสอบอย่าเข้มงวด หากต้องมาปฎิบัติงาน ซึ่งจากการตรวจสอบไทม์ไลท์พนักงานราชการ ฝ่ายบริการในวันที่ 8 เมษายนที่ผ่านมาเมื่อตรวจสอบแล้วคาดว่าน่าจะมีการติดเชื้อหลังจากวันดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ได้เน้นย้ำ ว่าบุคลากรในทุกพื้นที่มีสิทธิ์เสี่ยงจึงขอให้พยายามดูแลอย่างดีที่สุด ลดการปฎิบัติงานในพื้นที่ให้มากที่สุดส่วนเรื่องการฉีดวัคซีน ให้สมาชิกนั้น เป็นเรื่องที่รัฐบาลจะดำเนินการจัดเตรียมให้กับสมาชิกรัฐสภาโดยการประสานงานของกระทรวงสาธารณสุขและกรรมาธิการการสาธารณสุขโดยมีการฉีดเข้มแรกเมื่อวันที่ 8-9 เมษายนที่ผ่านมา โดยกรณีนี้ถือเป็นความสมัครใจของสมาชิก ซึ่งสมาชิกวุฒิสภาส่วนใหญ่ถือเป็นกลุ่มเสี่ยง

 

พนักงานราชการ สว. ติดเชื้อโควิด-19 เปิดไทม์ไลน์ พบอาจติดเชื้อจากการขับรถมอเตอร์ไซค์รับ-ส่งผู้โดยสาร

จากกรณีที่มีพนักงานราชการ สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ติดเชื้อโควิด-19 ล่าสุด พนักงานคนดังกล่าว ได้พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว พร้อมมีการเปิดไทม์ไลน์ พื้นที่เสี่ยง โดยคาดว่า น่าจะได้รับเชื้อตั้งแต่วันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมา ที่เจ้าตัวทำงานนอกเวลาพิเศษ เพื่อขับรถมอเตอร์ไซค์รับ-ส่งผู้โดยสาร ที่รถไฟฟ้าเตาปูน เพื่อไปส่งที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เพื่อไปตรวจเชื้อโควิด-19 แต่ผู้โดยสารขอลงกลางทาง และชำระค่าโดยสาร ซึ่งมีการฉีดพ้นแอลกอฮอล์ เพื่อทำความธนบัตรทุกใบ

และระหว่างวันที่ 12-14 เมษายน พนักงานคนดังกล่าว ยังรถขับรถรับส่งผู้โดยสารแต่มีผู้ใช้บริการน้อยจากนั้นวันที่ 15 เมษายน มีเพื่อนเดินทางจากจังหวัดศรีสะเกษ มาพักร่วมห้องที่คอนโด ก่อนเดินทางไปทำธุระที่บางแสนและนั่งรับประทานอาหารที่ริมหาด ก่อนกลับกรุงเทพฯ ซึ่งก่อนเข้านอนมีอาการหนาวสั่น จึงได้ทานยาพาราแล้วพักผ่อน

ในวันที่ 16 เมษายนไปทำธุระย่านมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต และห้างสรรพสินค้าเจเจมอลล์ ก่อนเดินทางไปโรงพยาบาล เนื่องจาก รู้สึกไม่มีแรง และมีอาการท้องเสียก่อนแอดมิท แต่เพื่อนที่มาจากศรีสะเกษ ยังคงไปทำงานตามปกติ และในวันที่ 17 เมษายน จึงทราบผลว่า ติดเชื้อโควิด-19 จึงเข้ารีบการรักษาที่โรงพยาบาล จนปัจจุบัน

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube