นายกฯขอบคุณ Bayer AG ร่วมยกระดับชีวิตเกษตรกรไทย

นายกฯขอบคุณบริษัท Bayer AG ร่วมกันยกระดับชีวิตเกษตรกรไทย พร้อมเพิ่มโอกาสแสวงหาความร่วมมือการวิจัยและพัฒนาด้านสาธารณสุข และการเกษตร เพื่อประโยชน์ร่วมกัน
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางไปเยี่ยมชมบริษัท Bayer AG ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำระดับโลกที่มีความเชี่ยวชาญด้านค้นคว้า วิจัยและผลิต ผลิตภัณฑ์ด้านชีววิทยาศาสตร์ (Lifesciences) ซึ่งการเยี่ยมชมในครั้งนี้เกิดขึ้นภายหลังจากที่นายกรัฐมนตรีได้พบหารือกับ Mr. Stefan Oelrich กรรมการบริษัทฯ และหัวหน้ากลุ่มธุรกิจการแพทย์ ณ เมืองดาวอส สมาพันธรัฐสวิส เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2568
โดยบริษัทฯ ได้กล่าวถึงความเชี่ยวชาญของ Bayer ในการรักษาโรค เช่น มะเร็งปอด มะเร็งต่อมลูกหมาก โรคหัวใจ รวมถึงการบำบัดด้วยเซลล์และยีน (Cell and Gene Therapy) ซึ่งครอบคลุมการทดลองรักษาโรคพาร์กินสันและภาวะตาบอดบางประเภท ทั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนที่จะนำเทคโนโลยีเหล่านี้เข้าสู่ประเทศไทยในอนาคต พร้อมเน้นย้ำถึงความสำคัญของการเร่งรัดกระบวนการอนุมัติยาเพื่อให้สามารถนำเสนอการรักษาใหม่ ๆ ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้พบหารือกับ Dr. Christian Rommel หัวหน้าฝ่ายวิจัยและพัฒนา Global Head of Research and Development
ทั้งสองฝ่ายยินดีที่ได้พบหารือกันต่อเนื่องจากเมื่อเดือนมกราคม 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งแสดงถึงโอกาสและความพร้อมในการร่วมมือกัน โดย Bayer ได้กล่าวว่าสนใจจะหารือเพิ่มความร่วมมือด้านเกษตรกรรม นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำถึงความร่วมมือด้านการแพทย์และเกษตร ตลอดจนกล่าวว่าสนใจแลกเปลี่ยนความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาร่วมกัน เพราะเชื่อว่าจะเป็นส่วนที่ทำให้เกิดการพัฒนาและประชาชนได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง
ผู้บริหาร Bayer ได้กล่าวถึงแนวทางการทำงานของบริษัทฯ และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ความก้าวหน้าในงานวิจัยของบริษัทฯ กับนายกรัฐมนตรีอย่างสร้างสรรค์ ทั้งด้านเกษตรกรรม และชีววิทยา รวมทั้งหาแนวทางร่วมกันในการเพิ่มความร่วมมือระหว่างบริษัทฯ กับประเทศไทย
ซึ่งนายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับการศึกษาและวิจัย พัฒนาเพื่อการเกษตรที่ก้าวหน้า ยกระดับชีวิตเกษตรกร เพิ่มผลผลิต เพิ่มราคา และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นมีชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน และพร้อมร่วมมือในโครงการ better life farmer กับ Bayer
อนึ่ง บริษัท Bayer AG เน้นย้ำการพัฒนาเทคโนโลยีด้านชีววิทยาศาสตร์ ซึ่งบริษัทฯ แบ่งการดำเนินงานออกเป็น 3 แผนกหลัก ได้แก่ 1) แผนกเภสัชภัณฑ์ ผลิตยารักษาโรคต่างๆ เช่น Aspirin และ Xarelto 2) แผนกสุขภาพผู้บริโภคที่จำหน่ายยาที่ไม่ต้องใช้ใบสั่งแพทย์ อาทิ ยาแก้หวัด ยาแก้ไข้ ยารักษาภูมิแพ้ และ 3) แผนกวิทยาศาสตร์พืชผล ที่ดูแลเมล็ดพันธุ์และผลิตภัณฑ์อารักขาพืช โดยปัจจุบันบริษัทมีเครือข่าย 340 บริษัทใน 80 ประเทศ และยังมีความร่วมมือเพื่อพัฒนานวัตกรรมด้านเกษตรกรรมและเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews