Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

“อิ๊งค์” จัดคิวเปย์ก่อน เงินหมื่นกระตุ้นศก.

นับถอยหลังแจกเงินหมื่นเฟส 3 ล่าสุดในการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ครั้งที่ 1/2568 ที่มีนายกรัฐมนตรี “แพทองธาร ชินวัตร”เป็นประธาน ได้เคาะออกมาแล้วว่า กลุ่มอายุ 16-20 ปี คือกลุ่มที่โชคดีจะได้รับเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาทก่อน โดยคาดว่าในช่วงปลายไตรมาส 2 ปีนี้เงินจะถึงมือ ส่วนเฟส 4 รอไปก่อน

 

 

 

ทั้งนี้ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. คุยกับนักวิชาการอิสระ “ศ.ดร.พรายพล คุ้มทรัพย์” ถึงนโยบายแจกเงินหมื่นของรัฐบาล โดย “ศ.ดร.พรายพล” กล่าวว่า ภาพรวมการแจกเงิน 1 หมื่นบาทย่อมส่งผลดีต่อเศรษฐกิจไทย เพราะในช่วงที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยต้องยอมรับว่าไม่ค่อยดีสะท้อนจากตัวเลขจีดีพีและตัวเลขต่างๆ ที่ประกาศออกมาชะลอตัวค่อนข้างมาก

 

 

 

“ผลดีน่าจะมีอยู่ในระดับหนึ่งตอนนี้ เพราะว่าเศรษฐกิจไทยช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งปีที่ผ่านมา มันอ่อนตัวมาก ชะลอตัวลงเยอะ เราจะดูสัญญาณต่างๆที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นตลาดหุ้นไทยซึ่งก็ ตกเหวลงไปต่ำกว่า 1,200 จุดแล้ว ยอดขายของรถยนต์ก็ตก การค้าขายในเรื่องอสังหาริมทรัพย์ก็ซบเซา มีหลายอย่างที่ชี้ให้เห็นว่า ปัญหาเรื่องกำลังซื้อก็ดี ปัญหาเรื่องการลงทุนก็ค่อนข้างอ่อนตัวมาก เพราะฉะนั้นช่วงนี้ถ้าจะกระตุ้นเศรษฐกิจโดยการแจกเงิน 1 หมื่นบาท ก็ไม่น่าจะเสียหายอะไรมาก”

 

 

“ศ.ดร.พรายพล” กล่าวอีกว่า แม้โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการแจกเงิน 1 หมื่นบาท รัฐบาลจะจัดสรรงบประมาณไว้แล้ว แต่ก็ควรที่จะลดการขาดดุลของงบประมาณด้วยเช่นกัน

 

 

 

“งบประมาณก็คงมีการจัดสรรไว้เรียบร้อยแล้ว คิดว่าเป็นเงินส่วนที่เหลือที่มีการจัดสรร เพราะว่ากระตุ้นไป 2 รอบแล้ว จำนวนเงินมากบ้าง น้อยบ้าง รอบนี้คงมากที่สุด แล้วเงินก็คงเหลือพอที่จะกระตุ้นได้ แต่แน่นอน งบประมาณของรัฐก็ขาดดุลมาโดยตลอด ปีนี้ก็ขาดดุล ไม่ใช่เป็นเรื่องเฉพาะการกระตุ้นเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องการใช้จ่ายของภาครัฐ

 

 

โดยรวมมันค่อนข้างมาก จริงๆแล้วน่าจะเป็นจุดหนึ่งที่จะต้องระมัดระวังพอสมควร ในปีข้างหน้าถ้ามีโอกาส น่าจะลดขนาดของการขาดดุลให้น้อยกว่าเท่าที่ผ่านมา เป็นไปได้มีแผนที่จะให้งบประมาณสมดุลได้ในที่สุด ก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดี”และเมื่อถามถึงแนวโน้มเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 ปี 2568 จะเป็นอย่างไร คำตอบที่ได้ น่าสนใจ

 

 

 

“ไตรมาส 2 ก็คงได้รับอานิสงค์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะฉะนั้นก็อาจจะมีความคึกคักมากขึ้น การส่งออกน่าจะอึมครึมอยู่ เพราะความไม่แน่นอนในเรื่องตลาดโลกของนโยบายภาษีของสหรัฐก็ดี เรื่องของการลงทุนทั้งภาคเอกชนกับภาครัฐ ก็อาจจะดีขึ้น ภาครัฐโดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีความพร้อมในเรื่องงบประมาณมากขึ้น เอกชนเองก็ไม่ค่อยแน่นอนนัก สถานการณ์ก็ยังดูคล้ายๆว่า ดูซ้าย ดูขวาอยู่ แต่ก็มีโอกาสดีขึ้นเช่นกัน”

 

 

ขณะกระทรวงพาณิชย์ ได้ออกมาเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยรวม เดือนก.พ. พบว่า ยังคงอยู่ในช่วงเชื่อมั่นหรือมีค่ามากกว่าระดับ 50 โดยอยู่ที่ระดับ 52.0 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 51.5 ในเดือนก่อน โดยปัจจัยที่ส่งผลให้ดัชนียังคงอยู่ในช่วงเชื่อมั่น เนื่องจากการดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการกระตุ้นการใช้จ่ายภาคประชาชน เช่น มาตรการภาษี Easy E-Receipt 2.0 และโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ 1 หมื่นบาท

 

 

จากนี้ต่อไปจะต้องจับตาการขับเคลื่อนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยของรัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี “แพทองธาร ชินวัตร” อย่างใกล้ชิด เพราะนี่คืออีกหนึ่งปัจจัยที่จะส่งผลต่อคะแนนนิยมของรัฐบาลและตัวของนายกฯอิ๊งค์นั่นเอง

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube