Home
|
ข่าว

YLG เผย ปีนี้ทองโลกปรับขึ้นมาแล้วเกือบ 14% ทองไทย 12%

Featured Image

 

 

YLG เผย ปีนี้ทองโลกปรับขึ้นมาแล้วเกือบ14% ทองไทย 12% ยันยังไปได้ต่อ ลุ้นนโยบายทรัมป์ดันราคาชนเป้า

 

 

 

นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) เปิดเผยว่า ราคาทองคำในปี 2568 ร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้ ตั้งแต่ต้นปี-ปัจจุบัน ราคาทองคำโลกปรับตัวขึ้นมาแล้วถึง 362.08 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 13.80% ล่าสุดเพิ่งทดสอบระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบใหม่ที่ 2,993.86 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเข้าใกล้กับเป้าหมายที่เคยให้ไว้ที่ 3,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และมีเป้าหมายถัดไปที่ 3,100 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

ขณะเดียวกันราคาทองคำแท่ง 96.5% ในประเทศ ปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรงไม่แพ้กัน โดยล่าสุดได้ขึ้นไปทดสอบระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบใหม่ที่ 47,650 บาทต่อบาททองคำ แม้จะลดช่วงบวกลงมาบ้างหลังจากเงินบาทแข็งค่า แต่ตั้งแต่ต้นปี-ปัจจุบัน ราคาทองคำแท่ง 96.5% ในประเทศปรับตัวขึ้นมาแล้วถึง 5,100 บาทต่อบาททองคำ หรือ 12.03% และมองว่าภาพรวมปีนี้ทองคำจะยังเป็นขาขึ้น แม้จะมีแรงเทขายทำกำไรสลับออกมาบ้างในระยะสั้น

 

โดยราคาทองคำที่ปรับขึ้นมานั้นได้รับแรงหนุนหลักมาจากแรงซื้อในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย เนื่องด้วยนักลงทุนมีความกังวลต่อประเด็นสงครามการค้าที่เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากภายหลังการปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้า 25% ต่อเหล็กและอะลูมิเนียมของสหรัฐ สหภาพยุโรป (EU) และแคนาดาได้มีการตอบโต้ ด้วยการประกาศปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐ มูลค่า 2.6 หมื่นล้านยูโร และ 3.0 หมื่นล้านดอลลาร์แคนาดา ตามลำดับ

 

และล่าสุด EU ได้เรียกเก็บภาษี 50% ต่อวิสกี้ที่นำเข้าจากสหรัฐ แต่หลังจากนั้นไม่นาน นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้ตอบโต้กลับทันที โดยเผยผ่าน Truth Social ว่าจะเรียกเก็บภาษีต่อผลิตภัณฑ์สุราและแอลกอฮอล์ จาก EU สูงถึง 200%

 

สถานการณ์ดังกล่าว ทำให้ในช่วงสามสัปดาห์ข้างหน้าจนกว่าจะเริ่มใช้มาตรการภาษีแบบตอบโต้ (Reciprocal Tariff) จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงในประเด็นสงครามการค้า ที่มีส่วนเพิ่มมุมมองเชิงลบต่อเศรษฐกิจสหรัฐตามไปด้วย อีกทั้งจากการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อ ในเดือนก.พ. ของสหรัฐ ที่พบว่าชะลอตัวลงสู่ระดับต่ำกว่าคาดการณ์ ทั้งในฝั่งผู้บริโภค (CPI) และฝั่งผู้ผลิต (PPI)

 

ส่งผลให้นักลงทุนกลับมาคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปี 2568 มากกว่าที่ส่งสัญญาณไว้ที่ 2 ครั้ง ซึ่งกดดันการพยายามฟื้นตัวขึ้นของค่าเงินดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ และยังมีปัจจัยบวกจากธนาคารกลางทั่วโลกเดินหน้าซื้อทองต่อเนื่องในปีนี้

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube