“สุริยะ” รับนายกฯ สั่งเร่งตรวจสอบก่อสร้างถนนพระราม 2

“สุริยะ” รับนายกฯ สั่งเร่งตรวจสอบก่อสร้างถนนพระราม 2 ทรุดตัว ย้ำ หากพบผู้รับเหมาผิดจริง จะดำเนินมาตรการสูงสุด มั่นใจ หากสมุดพกตัดคะแนนแล้วเสร็จ ความปลอดภัยจะดีขึ้น เชื่อ ปลายเดือนเม.ย.มีมาตรการชัดเจน
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมแถลงผลการประชุมเรื่องมาตรการความปลอดภัยในการก่อสร้างถนนและเส้นทางคมนาคม ภายหลังโครงการทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง -วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก สัญญาที่ 3 บริเวณถนนพระราม 2 ทรุดตัว ว่า วันนี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้บัญชาให้ตนเชิญหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม ทั้งกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท รวมถึงการรถไฟฟ้า
ขนส่งมวลชน หรือรฟม. มารายงานถึงอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะโครงการทางด่วนพระราม 3 -ดาวคะนอง ที่เกิดขึ้นล่าสุดและมีผู้เสียชีวิต โดยสั่งการว่าหากหน่วยงานตรวจสอบแล้ว พบว่าเกิดจากความผิดของบริษัทผู้รับเหมา หรือ ผู้ควบคุมงานให้ใช้กฎหมายที่มีอยู่ โดยพิจารณาบทลงโทษสูงสุดตามมาตรา 109 หมวด 12 ของพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ว่าด้วยการทิ้งงาน
ขณะที่ มาตรการสมุดพกผู้รับเหมานั้น อธิบดีกรมบัญชีกลาง ได้ชี้แจงว่ามาตรการปัจจุบัน ตามมาตราจัดซื้อจัดจ้างของกรมบัญชีกลางสามารถนำมาใช้ได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องรอสมุดพก แต่ทางหน่วยงานที่รับผิดชอบ บอกว่าข้อบังคับของกรมบัญชีกลางเป็นเรื่องของกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบทที่จะต้องใช้ดุลยพินิจ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ห่วงว่าอาจจะถูกฟ้องร้องได้ จึงขอให้ไปตรวจสอบให้ชัดเจนก่อน หากพบว่ามีความบกพร่องของผู้รับเหมาจริง จะใช้มาตรการสูงสุด
ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นสามารถเอาผิดผู้รับเหมาได้หรือไม่ นายสุริยะ กล่าวว่าเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อ 2 วันที่แล้ว ขณะนี้ทางดีเอสไอจึงอยู่ระหว่างรีบตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาไม่เกินหนึ่งเดือนน่าจะแล้วเสร็จทั้งนี้ สำหรับมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำ นายสุริยะ ระบุว่า ในช่วงนี้การก่อสร้างยังมีต่อไปเรื่อยๆ ฉะนั้นประชาชนที่เดินทางผ่านสะพานพระราม2-3 ก็คงจะห่วงในเรื่องความปลอดภัย ตนจึงเสนอให้สภาวิศวกรรมสถานให้มาตรวจสอบกระบวนการ
โดยจะมีการจัดจ้างทีมที่ปรึกษา
เข้ามาช่วยคำนึงความปลอดภัยในการก่อสร้าง เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด ซึ่งที่ผ่านมาขอให้มาช่วยแบบไม่ได้จ่ายค่าจ้าง แต่ต่อจากนี้จะดำเนินการว่าจ้างให้เป็นกิจลักษณะ เพื่อให้เขานำบุคลากรมาช่วยดูแลเมื่อถามว่า ในที่ประชุมนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้เอาผิดที่ปรึกษาโครงการฯ จะต้องมีการตรวจสอบหรือไม่ นายกสุริยะ กล่าวว่า หากพบว่าเป็นความผิดพลาดของที่ปรึกษาโครงการฯ จริงสามารถสั่งการให้ดำเนินคดีทางอาญา ฟ้องทางแพ่ง รวมถึงยึดใบอนุญาตด้วย
ส่วนประชาชนจะมั่นใจว่าโครงสร้างแข็งแรงได้อย่างไร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ที่ผ่านมายังไม่มีโครงการไหนที่ไม่แข็งแรงเพราะตอนออกแบบใช้มาตรการที่เป็นไปตามวิศวกรรมอยู่แล้วเพียงแต่ขั้นตอนการก่อสร้างช่วงที่ควบคุมงาน อาจมีการประมาทเลินเล่อของผู้รับเหมาจึงทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น ฉะนั้นขอย้ำว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวข้องกับกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ไม่ได้มาตรฐาน เพราะวัสดุการก่อสร้างกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบทได้ตรวจสอบอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว
สำหรับที่เกิดเหตุซ้ำแสดงว่าหละหลวมในเรื่องของมาตรฐานหรือไม่ นายสุริยะ ย้ำว่า ตนได้กำชับ กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท รฟม. และหน่วยงานที่ต้องก่อสร้าง ให้พูดกับผู้รับเหมาว่าให้คำนึงเรื่องความปลอดภัย อย่าให้เกิดอุบัติเหตุ ขณะเดียวกันกระทรวงคมนาคมก็ได้เชิญผู้รับเหมามาย้ำอีก แต่ปรากฏว่ายังเกิดเหตุการณ์ซ้ำ ตนจึงได้เสนอมาตรการสมุดพกเพื่อตัดคะแนนผู้รับเหมา
โดยหากเกิดกรณีที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตจะให้บริษัทนั้นถูกแบล็กลิสต์ และไม่สามารถเสนอราคาได้อีก เพื่อให้ทางผู้รับเหมาทำงานด้วยความระมัดระวัง แต่ที่เหตุการณ์ก่อนๆ ยังไม่ได้ดำเนินการขึ้นแบล็กลิสต์เป็นเพราะต้องพูดคุยกับกรมบัญชีกลาง และต้องรอการสอบสวนให้เสร็จเรียบร้อย จึงคาดคาดว่าอย่างช้าไม่เกินสิ้นเดือนเมษายน สมุดพกก็น่าจะเรียบร้อย
นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงความจำเป็นในการทบทวนการแบ่งสัญญา ว่า ที่ผ่านมามีการแบ่งงานค่อนข้างมาก จึงเป็นเหตุทำให้ไม่ได้มาตรฐาน พร้อมยกตัวอย่างกรณีก่อสร้างถนนพระราม 2 ว่ามีประมาณ 14 สัญญา บางสัญญาไม่เสร็จก็เป็นปัญหา จึงได้การไปว่าต้องแบ่งสัญญาเท่าที่จำเป็น ไม่เยอะจนเกินไป
ส่วนที่มีกระแสวิพากย์วิจารณ์ให้กระทรวงคมนาคมรับผิดชอบด้วยการลาออก นายสุริยะ กล่าวว่า ได้อธิบายข้อเท็จจริงไปแล้ว ว่ากระทรวงคมนาคมดำเนินการมาโดยตลอด หากมาตรการออกมาชัดเจน และมีเรื่องแบล็กลิสต์ผู้รับเหมา เชื่อว่าความปลอดภัยจะดีขึ้น พร้อมยืนยันว่าโครงการก่อสร้างพระราม 2 จะแล้วเสร็จตามกำหนดการเดิม คือภายในสิ้นปีนี้แน่นอน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews