กรมพัฒนาธุรกิจฯ ตรวจเยี่ยม 3 กลุ่มธุรกิจ ในสระบุรี-นครราชสีมา

กรมพัฒนาธุรกิจฯ ลงพื้นที่สระบุรี-นครราชสีมา ตรวจเยี่ยมผู้ประกอบการชุมชน 3 กลุ่มธุรกิจ เก็บรายละเอียด จัดทำแผนพัฒนาผู้ประกอบการให้สอดคล้องกับบริบทการค้าปัจจุบันและอนาคต
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ลงพื้นที่พบปะผู้ประกอบการ เพื่อเข้าถึงความต้องการของภาคธุรกิจแต่ละพื้นที่ให้ได้มากที่สุด ส่งผลถึงรูปแบบและแนวทางการให้ความช่วยเหลือ ส่งเสริม พัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการอย่างตรงจุด ช่วยขยายช่องทางการตลาดให้หลากหลาย ขจัดปัญหาอุปสรรคทางการค้า อำนวยความสะดวกภาคธุรกิจ รวมทั้ง สร้างความสมดุลธุรกิจผ่านการจ้างงานคนในพื้นที่ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นให้เกิดการหมุนเวียน สร้างความเข้มแข็งธุรกิจท้องถิ่นระยะยาว
ล่าสุด ได้นำคณะผู้บริหารลงพื้นที่ จ.สระบุรี และ จ.นครราชสีมา พบปะพูดคุยกับผู้ประกอบการ 3 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจ ESG ธุรกิจ Wellness และ ธุรกิจร้านอาหาร Thai SELECT เพื่อหารือแนวทางการส่งเสริมสร้างความยั่งยืนแก่ภาคธุรกิจ รับฟังปัญหา/อุปสรรค ข้อเสนอแนะด้านต่างๆ รวมทั้ง ความต้องการได้รับความช่วยเหลือสนับสนุนจากภาครัฐ สาเหตุที่เลือก 3 กลุ่มธุรกิจข้างต้น เนื่องจากเป็นธุรกิจที่อยู่ในการส่งเสริมสนับสนุนของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เป็นธุรกิจเป้าหมายที่สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ และสามารถจ้างงานคนในท้องถิ่นเพื่อเข้ามาทำงานในธุรกิจได้ ซึ่งตรงตามวัตถุประสงค์ของการลงพื้นที่ อีกทั้ง เป็นธุรกิจที่ศักยภาพสูงสามารถพัฒนาให้เป็นหน่วยเศรษฐกิจหลักที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจจังหวัดให้มีความเข้มแข็งอย่างต่อเนื่อง
ธุรกิจแรกที่ตรวจเยี่ยม คือ วิสาหกิจชุมชนรังไหมประดิษฐ์ Silk COCOON Group อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี เป็นธุรกิจ ESG จัดตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2548 ปัจจุบันมีนายกิติศักดิ์ ขจรภัย รองประธานวิสาหกิจชุมชนรังไหมประดิษฐ์ เป็นผู้นำ ทั้งนี้ วิสาหกิจฯ อยู่ใกล้กับศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ สระบุรี จึงได้นำรังไหมมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ และกลุ่มวิสาหกิจฯ มีการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมบนพื้นที่ 5 ไร่ ในพื้นที่ อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี เลี้ยงสายพันธุ์เหลืองไพโรจน์สระบุรี ใช้ระยะเวลาในการเลี้ยง 30 วัน ต่อ 1 รุ่น ปัจจุบัน ใช้แรงงานคนในพื้นที่ตำบลตลาดน้อย 30 คน (ผู้สูงอายุ แม่บ้าน นักเรียนนักศึกษาที่ต้องการหารายได้)
สิ่งที่ผู้ประกอบการต้องการให้ภาครัฐช่วยเหลือ คือ 1) ขยายช่องทางการตลาดในประเทศ เช่น สนามบิน ร้านขายของที่ระลึกให้นักท่องเที่ยว องค์กรที่จัดประชุม และใช้ของที่ระลึกในการแจกลูกค้า 2) ขยายช่องทางการตลาดออนไลน์ ที่นำสินค้าไปขายในประเทศ และต่างประเทศ 3) ช่องทางการตลาดในต่างประเทศ พาออกงานแสดงสินค้าในต่างประเทศ หรือ เจรจาจับคู่ธุรกิจกับคู่ค้าต่างประเทศ เพื่อขยายช่องทางการตลาดและจำหน่ายสินค้าในต่างประเทศ
ธุรกิจที่ 2 ธุรกิจ Wellness โดยได้พบปะพูดคุยกับ นางสาวชวนัสถ์ สินธุเขียว ประธานสมาพันธ์สมาคมสปาแอนด์เวลเนสไทย และเจ้าของ TUSCAN Senses Spa ตั้งอยู่ภายใน Toscana Valley เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา พบว่า ธุรกิจสปาแอน์เวลเนสของไทยมีการปรับตัวเป็นอย่างมากหลังสถานการณ์การเผยแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยเน้นตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคมากขึ้น และเน้นการสร้างประสบการณ์ใหม่ตามเทรนด์การดูแลสุขภาพและสังคมผู้สูงอายุ ชูจุดขายด้าน Healthcare & Wellness ที่กำลังเติบโตและได้รับความนิยมจากผู้บริโภค
ทั้งนี้ TUSCAN Senses Spa กำลังพัฒนาพื้นที่สู่การเป็นศูนย์กลาง Wellness ที่ให้บริการด้านสุขภาพแบบองค์รวม เช่น สปา อาหารออแกนิกส์ ดนตรีบำบัด ฟิตเนส โยคะ คลินิกความงามและการชะลอวัย (Anti-Aging) ที่มีการแพทย์และสิ่งอำนวยความสะดวก ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคปัจจุบัน นอกจากนี้ TUSCAN Senses Spa และบริษัทในเครือยังมีส่วนช่วยยกระดับเศรษฐกิจชุมชน โดยการจ้างงานคนในพื้นที่ และอุดหนุนผลผลิตทางการเกษตรตามฤดูกาลทั้ง สมุนไพร พืชผัก ผลไม้ ฯลฯ มาใช้เป็นส่วนหนึ่งของวัตถุดิบที่เกี่ยวข้อองกับบริการสปาและร้านอาหาร รวมทั้งใส่ใจเรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้บูรณาการความร่วมมือกับสมาพันธ์สมาคมสปาแอนด์เวลเนสไทยมาอย่างต่อเนื่อง ภายใต้ภารกิจร่วมกันที่จะส่งเสริมให้ธุรกิจสปาและเวลเนสของไทยมีศักยภาพได้มาตรฐานและมีโอกาสเติบโตต่อไป เช่น ปี 2566 กรมฯ ได้จัดกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจระหว่างเจ้าของผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการพัฒนาให้มีนวัตกรรมเพิ่มมูลค่าจาก Smart Local ของกรมฯ และ Innovative house ซึ่งเป็นหน่วยงานสังกัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม มานำเสนอผลิตภัณฑ์กับสมาชิกของสมาพันธ์สมาคมสปา 20 สมาคมทั่วประเทศ ช่วยส่งเสริมและสร้างรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการชุมชน
รวมทั้ง ประชาสัมพันธ์เชิญชวนสมาชิกเข้าร่วมกิจกรรม DBD WELLNESS 2024-2025 นอกจากนี้ สมาพันธ์ฯ ยังได้มีส่วนร่วมพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน โดยการลงพื้นที่ให้ความรู้กับเกษตรกร ผู้ปลูกสมุนไพร เพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์ชุมชนสร้างมูลค่าเพิ่ม และการเชื่อมโยงเครือข่ายระหว่างหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่ให้การส่งเสริมธุรกิจสปาและสุขภาพ การสนับสนุนร้านสปาเข้าประกวดต่างๆ การร่วมออกบูธในงานแสดงสินค้า
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews