Home
|
ข่าว

นายกฯ สั่ง 5 หน่วยงานจำลองโมเดลหาสาเหตุตึกสตง.ถล่ม

Featured Image

 

นายกฯ สั่งการให้ 5 หน่วยงาน จำลองโมเดลหาเหตุผลที่ทำให้ตึก สตง. ถล่ม คาดใช้เวลา 90 วัน ย้ำ เรื่องนี้จะต้องมีผู้รับผิดชอบ ขอประชาชนมั่นใจ ไทยมีกฎหมายสร้างตึกอาคารให้รองรับแผ่นดินไหว

 

 

 

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลัง การรับฟังรายงานผลการตรวจสอบอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. จากนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยขอให้ความมั่นใจกับประชาชน ว่า กฎหมายที่ออกมาในการสร้างอาคาร และตึกต่าง ๆ สามารถรองรับในเรื่องแผ่นดินไหวได้ แต่การสร้างตึกเหล่านั้นก็ต้องทำตามกฎหมายที่กำหนดไว้ และจากการพูดคุยได้ข้อสงสัยหลายเรื่อง ซึ่งเป็นข้อสงสัยที่สำคัญ

 

อีกอย่างที่ต้องทำคือไซด์งานที่เกิดเหตุยังต้องใช้เวลาในการขนย้ายซากอาคาร โดยได้พูดคุยกับกระทรวงมหาดไทยและกรุงเทพมหานครได้รับรายงานว่า จะต้องใช้เวลาประมาณ 1 เดือน เพื่อเคลียร์สถานที่ต่าง ๆ และการประชุมคณะกรรมการเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้ข้อสรุป ว่า จะใช้ 4 สถาบันการศึกษา และกรมโยธาธิการและผังเมือง ทำโมเดลจำลอง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง เพื่อให้รับรู้ถึงเหตุผลที่ทำให้ตึกถล่มมีอะไรบ้าง เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประชาชน และรัฐบาลได้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ซึ่งการวิเคราะห์ในการในการจัดทำโมเดลของแต่ละสถาบันจะใช้เวลาประมาณ 90 วัน เพื่อความแน่ชัดทางคณะกรรมการจะใช้เวลา 90 วัน ในการทำโมเดลแต่ละที่ เพื่อให้เกิดความร่วมมือ และความโปร่งใส

 

พร้อมย้ำว่า ตามกฎหมายที่ออก มามีความครอบคลุม แม้จะเกิดแผ่นดินไหวแต่หลายตึกไม่พังถล่ม มีเพียงตึกของ สตง. เพียงตึกเดียวเท่านั้น เพราะได้ทำตามกฎหมายที่กำหนด

 

ส่วนข้อสงสัยที่ได้รับมาตอนนี้ ขอให้รอเกิดความชัดเจนก่อน และเมื่อเคลียร์ไซด์ก่อสร้าง 1 เดือน จะได้ข้อมูลที่เพิ่มเติมจากที่เกิดเหตุ นอกจากนี้จะทบทวนกระบวนการตรวจสอบเรื่องของตึก อาคารใหม่ทั้งหมด ทั้งของเอกชน และราชการ ว่า การขออนุมัติที่ถูกต้อง ปลอดภัย และใช่กระบวนการที่เหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบันหรือไม่ เพราะทั้งสองเรื่องนี้สามารถเพิ่มในเรื่องแผ่นดินไหวเข้าไปได้ ดังนั้น การทบทวนกระบวนการเหล่านี้จะทำให้เกิดความคล่องตัว และตรงประเด็นมากขึ้น

 

ขณะเดียวกัน จะเพิ่มมาตรการอย่างไรให้ตึกที่ก่อสร้างในอนาคตไม่เกิดเหตุการณ์ลักษณะเช่นนี้ขึ้นอีก

 

นายกรัฐมนตรี ยังย้ำว่า ขณะที่เหล็กที่ใช้ในการก่อสร้างจะเป็นหนึ่งในวัสดุที่เกี่ยวข้องในเรื่องของปัจจัยอย่างแน่นอน ดังนั้นทั้ง 5 หน่วยงานจะมาช่วยกัน ว่า มีสิ่งใดบ้างที่ทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ ส่วนเหล็กมีผลทำให้โครงสร้างของอาคารพังถล่มใช่หรือไม่นั้นขอให้คณะกรรมการที่เป็นวิชาชีพเป็นผู้ให้รายละเอียด แต่ยอมรับว่า มีหลายปัจจัยที่เป็นข้อสงสัยได้ พร้อมยืนยันว่า เรื่องนี้จะต้องมีผู้รับผิดชอบ ซึ่งสิ่งใดที่ทำ ผิดมาตรฐาน ผิดกระบวนการ ถือเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย

 

ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าบริษัทผู้รับเหมาวิ่งเต้นกดดัน เพื่อให้รัฐมนตรีอุตสาหกรรมออกจากตำแหน่ง หลังเข้าไปตรวจสอบเรื่องนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อาจจะไม่ถูกต้องเรื่องของข้อกฎหมาย และอำนาจ รวมถึงเรื่องการวิ่งเต้นถือเป็นเรื่องใหญ่ ไม่มีใครสนับสนุนอยู่แล้ว เบื้องต้นไม่ได้พูดคุยกับบริษัทอิตาเลียนไทย และบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 แต่ถ้าเกี่ยวข้องกับกระบวนการก็ต้องพูดคุย

 

ด้านนายเป็นหนึ่ง วานิชชัย ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยแผ่นดินไหวแห่งชาติ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า การตรวจสอบจะทำการรวบรวมคุณภาพเหล็กคอนกรีตแบบวีดีโอเทปที่มีการประเมิน และทำแบบจำลองคอมพิวเตอร์ เพื่อการใช้แบบจำลอง จะทำให้เข้าใจ กระบวนการของตึ ที่พังทลาย คาดว่าต้องใช้เวลาประเมิน 90 วัน ส่วนเหตุผลที่คณะทำงานไม่กล้าสรุป เนื่องจากยังไม่มีการศึกษาครบกระบวนการ ที่จะรู้ว่ามีสาเหตุหลักมาจากส่วนใด

ขณะที่ นายพงษ์นรา เย็นยิ่ง อธิบดีกรมโยธาธิการ และผังเมือง กล่าวว่า ในส่วนโยธาธิการ และผังเมือง กล่าวว่า ขณะนี้ได้ตรวจเฉพาะอาคารในพื้นทึากรุงเทพฯจำนวน 559 อาคาร 191 หน่วยงาน แล้ว พบว่า ผลการตรวจสอบมีเพียง 2 หน่วยงานที่มีความเสียหายรุนแรงและห้ามใช้อาคาร คือ อาคารกรมสรรพากร และอาคารสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งได้ปิดการใช้ ส่วนที่โรงพยาบาลราชวิถี จากอาคารพื้นที่สีแดง ล่าสุดผู้เชี่ยวชาญเข้าซ่อมแซม และเป็นพื้นที่สีเหลือ ที่มีบางส่วนสามารถใช้ได้ ส่วนอาคารทั่วประเทศมีทั้งหมด กว่า 7,000 มีอาคารเสียหายไม่ถึง 1%

 

ขณะที่อาคารภาคเอกชน คอนโดมิเนียม โรงแรม ห้างสรรพสินค้า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย สั่งการให้ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประสานให้ผู้ประกอบการ ทำการ ตรวจสอบอาคารอีกครั้ง เพื่อให้เกิดความมั่นใจกับประชาชน

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube