ศปถ.เดินทางสงกรานต์วันแรก สูญเสีย 27 บาดเจ็บ 201
ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน แถลง 7 วันอันตรายสงกรานต์ วันแรก มีผู้เสียชีวิตแล้ว 27 ราย บาดเจ็บ 201 คน โดยพบว่ากรุงเทพมหานครเป็นแชมป์สูงสุด มีผู้เสียชีวิต 5 ศพ
สาเหตุส่วนใหญ่มาจากการขับรถเร็ว ทั้งนี้ ช่วงการเฉลิมฉลอง ระหว่างวันที่ 13-15 เมษายน เน้นย้ำให้ตำรวจไม่ตั้งด่านแบบเป็นพิธี แต่ต้องสังเกตพฤติกรรม อาการมึนเมาด้วยนายแพทย์โอภาส การย์กวินพงษ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวการประชุมครั้งแรก หลังจากเปิดศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์พ.ศ 2568
ตั้งแต่ วันที่ 11-17 เมษายน ภายใต้ชื่อ “ขับขี่ปลอดภัยเมืองไทยไร้อุบัติเหตุ” ว่า อุบัติเหตุเกิดขึ้น 211 ครั้ง ลดลงจากปีที่แล้ว 13.52% มีผู้บาดเจ็บที่ต้องนอนโรงพยาบาล 201 คนลดลงจากปีที่แล้ว 19.92% และผู้เสียชีวิต 27 ราย ลดลงจากปีที่แล้ว 27.03% จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด คือ กรุงเทพฯ 5 ราย รองลงมา ได้แก่ ขอนแก่น ตราด นครปฐม ลพบุรีสุพรรณบุรี และ อุดรธานี 2 ราย
โดยสาเหตุที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดได้แก่ ขับรถเร็ว อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเกิดจากขับรถเร็ว 86 ครั้ง ตัดหน้ากระชั้นชิด 52 ครั้ง ดื่มแล้วขับ 48 ครั้ง ทั้งนี้ อุบัติเหตุเกิดขึ้นส่วนใหญ่เป็นพฤติกรรมของผู้ขับขี่ ส่วนพฤติกรรมของผู้ประสบเหตุ ที่เกิดขึ้น คือ การขับขี่รถจักรยานยนต์ โดยไม่สวมหมวกนิรภัย 114 คน และขับรถเร็วกว่ากฎหมายกำหนด 5 คน ดื่มแล้วขับ 45 คน ตัดหน้ากระชั้นชิด 24 คน
สำหรับประเภทรถที่เกิดอุบัติเหตุ สูงสุดคือรถจักรยานยนต์ 179 คัน รองลงมาเป็นรถปิคอัพหรือรถกระบะ 12 คัน รถเก๋ง 10 คันพร้อมกันนี้ นายแพทย์โอภาส กล่าวถึงการรับมือช่วงวันเฉลิมฉลอง โดยเน้นย้ำให้ตำรวจไม่ตั้งด่านแบบเป็นพิธี แต่ต้องสังเกตพฤติกรรม เช่น อาการมึนเมา และขอให้หน่วยงาน เช่น กรมทางหลวง
ใช้ข้อมูลและบริบทจริง ปรับมาตรการให้เหมาะสม กับสถานการณ์
ด้านพล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร. สั่งการตำรวจลงพื้นที่จัดงานทุกระดับ (ใหญ่-กลาง-ชุมชน) โดยผู้จัดงานต้องรับผิดชอบ หากปล่อยให้ผู้ร่วมงาน
เมาแล้วขับจนเกิดอุบัติเหตุ ทั้งนี้ เตรียมส่งตำรวจ เข้าไปประชาสัมพันธ์-เตือนทุกจุด หากพบผู้เมา ขอให้อยู่ในพื้นที่จัดงาน หรือพาไปยัง หน่วยราชการ-หน่วยบริการประชาชนใกล้เคียงเพื่อลดการปล่อยผู้เมาขับรถ ให้มากที่สุด รวมถึงมีจุดเฝ้าระวังเพิ่มเติมคือ ปั๊มน้ำมัน เป็นจุดที่มักพบผู้ดื่มแอลกอฮอล์เข้ามาใช้บริการ ตำรวจจะเข้าไปสังเกต พฤติกรรมเสี่ยง เช่น เดินเซ หน้าแดง และหากพบ จะวัดแอลกอฮอล์ทันที จากนั้น นำไปพักยังหน่วยใกล้เคียงก่อนอนุญาตให้เดินทางต่อ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
