“อนุทิน”ใช้สบยช.-สนามกีฬาหัวหมาก-นิมิบุตร
“อนุทิน-สาธิต” ใช้สบยช.-สนามกีฬาหัวหมาก-นิมิบุตร เป็นศูนย์แรกรับ/ส่งต่อผู้ป่วยโควิดไม่มีเตียง
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลสนามและหอผู้ป่วยเฉพาะกิจโควิด-19 โดยมีนายแพทย์สรายุทธ์ บุญชัยพานิชวัฒนา ผู้อำนวยการสถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.) รายงานสถานการณ์และรายละเอียดการจัดตั้งหอผู้ป่วยเฉพาะกิจโควิด-19 และดูความพร้อมในการเปิดศูนย์แรกรับ และส่งต่อที่สนามกีฬาอินดอร์สเตเดียมหัวหมากและสนามกีฬาแห่งชาติ (นิมิบุตร)
นายอนุทิน กล่าวว่า โรงพยาบาลสนามและหอผู้ป่วยเฉพาะกิจโควิด ขนาด 200 เตียงของ สบยช. เปิดใช้แล้ว 130 เตียง มีผู้เข้าพักแล้ว 117 ราย ส่วนที่เหลือกำลังทยอยเปิดเพิ่ม หากผู้ป่วยอาการเปลี่ยนแปลงมีระบบส่งต่อโรงพยาบาลปทุมธานีได้ทันที โดยสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ เป็นผู้จัดการรถขนย้ายผู้ป่วย
สำหรับศูนย์แรกรับและส่งต่อได้รับความร่วมมือจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มอบพื้นที่สนามกีฬา 2 แห่ง ให้กระทรวงสาธารณสุขรับผู้ติดโควิดที่ไม่มีเตียง เพื่อคัดกรองและแยกระดับอาการ เขียว เหลือง แดง ก่อนส่งต่อไปรักษาตามความเหมาะสม เป็น Pre-admission Center ให้บริการเหมือนโรงพยาบาล มีอุปกรณ์ ทางการแพทย์ ยา เวชภัณฑ์พร้อม ส่วนบุคลากรจะระดมแพทย์ พยาบาล จากจังหวัดที่ควบคุมสถานการณ์ได้ดี สลับหมุนเวียนดูแล โดยได้รับการติดต่อจากภาคเอกชนที่พร้อมสนับสนุนเตียงมากถึง 5,000 เตียง แต่ย้ำว่า ไม่ใช่โรงพยาบาลสนาม เพราะจุดประสงค์การตั้งต่างกันและไม่ใช่สถานที่ตรวจหาเชื้อหรือเข้ารับการกักตัวแต่อย่างใด
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า การมีโรงพยาบาลสนามและฮอสปิเทลรองรับผู้ติดเชื้อไม่มีอาการ รวมทั้งรับผู้ป่วยที่อาการดีหรือรักษาหายออกมาดูแลต่อให้ครบระยะเวลา จะช่วยให้เตียงในโรงพยาบาลมีมากขึ้น โดยเฉพาะเตียงไอซียู กระทรวงสาธารณสุขและภาคีเครือข่ายจะทำทุกวิถีทาง เพื่อไม่ให้สถานการณ์ต้องถึงขั้นเปิดไอซียูสนาม ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนอดทนร่วมกันยกการ์ดสูง มั่นใจว่าเมื่อผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลง ผู้ป่วยในโรงพยาบาลทยอยหายมากขึ้น เมื่อตัวเลขต่างๆ เคลียร์ และวัคซีนมีมากขึ้นทุกอย่างก็น่าจะดีขึ้น
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news