รัฐบาลปัดปิดกั้นเอกชนจัดหาวัคซีน หากสามารถทำได้ทัน พบมีปัญหาส่งมอบล่าช้า ทับซ้อน ย้ำ ศบค.ประกาศขอความร่วมมือไม่ใช่ล็อกดาวน์
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงถึงกรณีการจัดหาวัคซีน หลัง นายกรัฐมนตรีหารือร่วมกันกับภาคเอกชน โดยย้ำว่ารัฐบาลไม่ได้ปิดกั้นการมีส่วนร่วมของเอกชนในการจัดหาวัคซีน ที่ได้มีการติดต่อไปแล้ว แต่จะมีความล่าช้าในเรื่องของการส่งมอบ ที่จะสามารถส่งมอบได้ ในช่วงไตรมาสที่ 4 หรือปลายปีนี้ ซึ่งมีความล่าช้าและอาจทับซ้อนกับในส่วนของรัฐบาลที่จัดหามาได้ จึงให้รัฐบาลเป็นหน่วยงานหลัก ในการจัดหาวัคซีน ตามแผนเดิมที่มีไว้ ที่ภายในสิ้นปีนี้จะมีทั้งหมด 100 ล้านโดส
อย่างไรก็ตาม ในการจัดหาวัคซีนทางสมาคมโรงพยาบาลเอกชนออกมาชี้แจงเช่นเดียวกันว่าวัคซีนต่างๆที่ภาคธุรกิจเอกชนจัดหามา ไม่ได้เกี่ยวข้อง กับในส่วนของโรงพยาบาลเอกชน เพราะทางโรงพยาบาลเอกชน ยังคงดำเนินการตามกลไกของคณะกรรมการพิจารณาจัดหาวัคซีนโควิด-19 ซึ่งเป็นแนวทางการจัดหาวัคซีนทางเลือก ที่สามารถพูดคุยเจรจาเพิ่มเติมในการนำเข้าวัคซีนทางเลือก พร้อมย้ำว่า รัฐบาลไม่ได้ปิดกั้น ซึ่งเอกชนสามารถดำเนินการจัดหาวัคซีนได้ ถ้าหาวัคซีนได้ทันตามกำหนด
ส่วนการให้ ประชาชนลงทะเบียนฉีดวัคซีน โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าใเบื้องต้นเปิดให้ลงทะเบียนผ่าน Application “หมอพร้อม” แล้วยังชี้แจงว่าในขณะนี้ได้วางแผนฉีดวัคซีน 3 ระยะ ขณะที่ ความกังวลของผู้ป่วยติดเชื้อแต่หากเตียงไม่ได้นั้น ได้มีการเปิดศูนย์แรกรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 อาคารนิมิตรบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ ซึ่งเป็นศูนย์ที่จะช่วยบริหารจัดการสำหรับผู้ที่ยืนยันว่าเป็นผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่กทม. ยังตกค้างอยู่ที่บ้านยังไม่สามารถที่จะหาเตียงในสถานพยาบาลได้ ซึ่งผู้ที่จะได้เข้ารับการดูแลในเบื้องต้นจะได้การรับการคัดกรองแยกระดับของอาการ ระดับสีเขียวสีเหลือง และสีแดง ก่อนที่จะส่งต่อไปยังสถานพยาบาลตามอาการ ซึ่งจะช่วยลดปัญหาของผู้ป่วยที่ติดค้างอยู่ที่บ้านได้
นอกจากนี้ นายอนุชา กล่าวชี้แจงประกาศ ศบค.ที่เป็นการขอความร่วมมือแทนการล็อกดาวน์ ซึ่งมีข้อสงสัยว่าจะได้ผลในการควบคุมโควิด-19 หรือไม่ ระบุว่า หากประชาชนมีความร่วมมือ จะสามารถทำให้สถานการณ์ระบาดของโควิด-19 ลดลงไปได้ และทำให้การทำกิจกรรมต่างๆ และประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ
ส่วนเรื่องยา เวชภัณฑ์ ที่ใช้รักษาโควิด-19 ทางกระทรวงสาธารณสุขยืนยันมีความพร้อมในทุกเรื่อง มีการนำเข้าสำรองและสต็อกไว้เพิ่มเติมแล้ว
สำหรับมาตรการเยียวยาและกระตุ้นทางเศรษฐกิจ ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง กระทรวงการคลัง นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานที่ดูแลด้านเศรษฐกิจ ได้มีการวางแผนมาตรการต่างๆอยู่ แต่การออกมาตรการทั้งหมดต้องดูจังหวะเวลาที่ประชาชนสามารถออกมาจับจ่ายใช้สอยได้ตามปกติ
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า พรรคร่วมรัฐบาล ยังมีความมุ่งมั่นในการร่วมมือกันทำงาน แก้ไขปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นทั้งหมด เพื่อให้ความแน่ใจกับประชาชนว่า นายกรัฐมนตรี กับพรรคร่วมรัฐบาล ยังทำงานด้วยความเข้มแข็ง พร้อมขอให้ประชาชน ร่วมกันให้กำลัง หมอ พยาบาล เจ้าหน้าที่ส่วนหน้า และประชาชนที่ให้ความร่วมมือในการดูแลสุขภาพ การทำกิจกรรมต่าง นายกรัฐมนตรียังได้ขอบคุณประชาชนที่ให้ความร่วมมืออย่างดีในการดูแลสุขภาพ การ work from home และการลดการเดินทาง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news