Home
|
ข่าว

นานาชาติหนุนไทยหาทางออกเมียนมา-จีนมอบวัคซีน5แสน

Featured Image
นานาชาติ หนุนไทย หาทางออกสถานการณ์เมียนมา ขณะจีนมอบวัคซีนให้ไทยเพิ่มอีก 5 แสนโดส คาดส่งมอบ พ.ค.

นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงถึงการหารือทางไกลของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทยกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ของ จีน ฝรั่งเศส และออสเตรเลียโดยประเด็นที่หารือกับ จีน ทั้ง 2 ฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับการจัดหาวัคซีนโควิด-19 ที่ทางการจีนประสงค์จะมอบวัคซีนให้ไทย อีกจำนวน 5 แสนโดส และจะมีพิธีส่งมอบในเดือน พ.ค. นี้ นอกจากนี้ ไทยยังได้ติดตามประเด็นคำขอที่ไทยขอให้จีนเปิดให้นักศึกษาของไทยสามารถเดินทางกลับไปศึกษาที่จีนได้ รวมการแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ในเมียนมาซึ่งไทยและจีนมุ่งหวังเห็นเมียนมามีเสถียรภาพและกับสู่สภาวะปกติ ซึ่งจีนสนับสนุนไทยและอาเซียนอย่างเต็มที่ ต่อความพยายามที่จะมีปฏิสัมพันธ์อย่างสร้างสรรค์ในการหาทางออกร่วมกันอย่างสันติ โอกาสนี้ไทยได้ตอบรับคำเชิญเข้าร่วมการประชุมอาเซียน-จีน สมัยพิเศษโอกาสครบรอบความสัมพันธ์อาเซียน-จีน รวมทั้งการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศในกรอบความร่วมมือแม่น้ำโขงล้านช้าง ครั้งที่ 6 ที่จีนจะเป็นเจ้าภาพในเดือน มิ.ย. นี้

สำหรับการหารือ กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการยุโรปและการต่างประเทศของฝรั่งเศส ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายได้ย้ำถึงความสัมพันธ์ ที่มีมารวมกันยาวนานถึง 336 ปี ซึ่งฝรั่งเศสได้แสดงความกังวลต่อสถานการณ์ในเมียนมา โดยฝรั่งเศสสนับสนุนบทบาทของไทยและอาเซียน ในฐานะที่ฝรั่งเศสเป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาของอาเซียน ในการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ในเมียนมา

ส่วนการหารือกับรัฐมนตรีว่าการกะทรวงต่างประเทศของออสเตรเลีย โดยไทยขอบคุณ ออสเตรีเลียที่มีการเปิดตัววิดีทัศน์ สารคดีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของไทยขณะทรงศึกษาอยู่ในเครือรัฐออสเตรเลีย โดยทั้ง 2ฝ่ายยืนยันความร่วมมือทางด้านทวิภาคีต่างๆ ทั้งด้านสาธารณสุข การศึกษา และเศรษฐกิจดิจิทัล และการจัดหาวัคซีนภายใต้ปฏิบัติการเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ ไทย – ออสเตรเลีย โดยออสเตรเลีย เสนอยกระดับความสัมพันธ์อาเซียนออสเตรเลียเพื่อเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์อย่างรอบด้าน

 

ไทยรองรับผู้หนีภัยความไม่สงบเมียนมาอย่างต่อเนื่อง พบ คนไทยถูกลูกหลงความไม่สงบ เจ็บ 1 ราย

นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยถึงสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศเมียนมาและการช่วยเหลือคนไทยในพื้นที่ใกล้เคียงรวมทั้งการช่วยเหลือผู้หนีภัยความไม่สงบ ว่าจากสถานการณ์การสู้รบ ระหว่างกองกำลัง KNU และกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง เข้าโจมตีฐานที่มั่นของกองทัพเมียนมา เมื่อวันที่ 27 เม.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกับกับ จ. แม่ฮ่องสอน ทำให้ คนไทยในพื้นที่ อ.สบเมย และอ.แม่เสรียง ได้รับผลกระทบ โดยมีประชาชนยังอาศัยอยู่ในพื้นที่ประมาณ 220 คน และมี 1 คน ถูกกระสุนได้รับบาดเจ็บ ส่วนการช่วยเหลือผู้หนีภัยความไม่สงบจากเมียนมา ขณะนี้พักอยู่ในพื้นที่ 3 แห่ง ในอ.แม่เสรียง ยังมีผู้หนีภัยจำนวนทั้งสิ้น 2267 คน และหากยังมีสถานการณ์สู้รบ ฝ่ายความมั่นคงได้มีการเตรียมแผนรับรองผู้หนีภัยในพื้นที่พักรอที่ห่างจากชายแดนราว 1 กิโลเมตร และจะมีการดูแลช่วยเหลือด้านต่างๆอย่างเต็มที่

 

กต.ประสาน ทอ.ขอเครื่องแอร์บัสบินรับขรก.สถานทูต-นักเรียนไทยในอินเดียกลับรักษาตัว หลังมีผู้ติดเชื้อหลายราย

แหล่งข่าวระดับสูงจากกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า กองทัพอากาศได้รับการประสานจากกระทรวงการต่างประเทศ ขอให้เตรียมความพร้อมเครื่องบินลำเลียงแบบที่ 15 หรือแอร์บัส A320 พร้อมเจ้าหน้าที่นักบิน แพทย์ รวมถึงเจ้าหน้าที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข โดยทั้งหมดจะสวมชุดป้องกันพีพีอี เพื่อเดินทางไปรับคนไทยที่ติดเชื้อโควิด-19 หลายรายที่ประเทศอินเดีย คาดว่าจะออกเดินทางได้จากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง ในวันที่ 1 พ.ค. แต่ทั้งนี้ต้องรอกระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้ดำเนินการแจ้งยืนยันอีกครั้ง เนื่องจากกองทัพอากาศมีหน้าที่ดำเนินการตามที่มีการร้องขอให้ช่วยสนับสนุนเท่านั้น อย่างไรก็ตามทราบว่าผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่ของสถานทูตไทย ประจำกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย และนักเรียนไทย โดยก่อนหน้านั้นทางสถานทูตไทยประจำกรุงนิวเดลี ได้ประสานมายังกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อขอให้ประสานกองทัพอากาศนำเครื่องบินไปรับเจ้าหน้าที่ของสถานทูตไทยประจำกรุงนิวเดลีที่ป่วยกลับมารักษาในประเทศไทย เนื่องจากมีเครื่องมือทางการแพทย์ และโรงพยาบาลที่มีความพร้อมมากกว่า โดยกองทัพอากาศจะดำเนินการเหมือนครั้งที่ผ่านมาที่เดินทางไปรับผู้ช่วยทูตทหารอากาศประจำกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย พร้อมทั้งเตรียมแผนอพยพคนไทยไว้หากรัฐบาลสั่งการลงมา

สำหรับความคืบหน้าการรักษาตัวของผู้ช่วยทูตทหารอากาศประจำกรุงนิวเดลีนั้น ล่าสุดทราบว่าอาการทรงตัว

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube