Home
|
คอลัมน์กีฬาขั้นเทพ

เปิดเส้นทางทรหด “ท้าวดักแด้” ก่อนขึ้นแท่น ตำนานกองเชียร์ไทย

 

 

กีฬาขั้นเทพวันนี้ จะพาไปทำความรู้จักกับกองเชียร์ไทย ที่ดังไกลไปทั่วโลก ซึ่งแม้ตอนนี้มหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2024 และ กีฬพาราลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ได้รูดม่านปิดฉากลงแล้ว

 

 

 

แต่ยังมีกระแสไวรัล ที่ชาวต่างชาติให้ความสนใจ และกล่าวขานยังไม่จบ นั่นก็คือ “ท้าวดักเด้” ตัวแทนกองเชียร์ของประเทศไทย ซึ่งแฟนกีฬาไทยจะต้องคุ้นหน้ากันเป็นอย่างดี เพราะเขามักจะคอยแต่งชุดไทย พร้อมสะบัดธงชาติไทยสู่สายตาคนทั่วโลก

 

จนบัญชีทางการของ “ปารีสเกมส์” ได้ออกมาโพสต์คลิปลีลาการเชียร์ของท้าวดักแด้ ที่ส่งพลังถึงทัพนักกีฬาไทย พร้อมระบุว่า “Gold medal for him #Paris2024” โดยแปลเป็นภาษาไทยว่า “อยากจะยกเหรียญทองให้เขาคนนี้จริง ๆ”

 

งานนี้ทำเอาคลิปดังกล่าว กลายเป็นไวรัล มีคนเข้ามารับชมกว่า 1.2 ล้านครั้ง มียอดรีทวิตถึง 1.3 หมื่นครั้ง ทั้งยังมีแฟน ๆ ชาวไทย และชาวเน็ตทั่วโลก เข้ามาคอมเมนต์ชื่นชมอย่างล้นหลาม

 

แต่ใครจะรู้ว่า การเชียร์ไทย คนนี้กว่าจะมายืนถึงจุดนี้ได้ เขาต้องฝ่าฟันอุปสรรคมานับไม่ถ้วน ถึงขนาดต้องขายรถสุดที่รัก เพื่อมาเป็นค่าใช้จ่ายในการไปเชียร์ทีมชาติไทยด้วย ก็เคยมาแล้ว

 

“ท้าวดักแด้” หรือชื่อจริง ไทยแลนด์ คำทอง (ชื่อเดิม บัญชา คำทอง) เป็นนักแสดงตลก มีชื่อเสียงมาจากโฆษณา ปตท. ชุด มนุษย์ตะกั่ว นอกจากนี้ หลายคนยังคุ้นหน้าคุ้นตาจากการเป็นนักแสดงสมทบในละครพื้นบ้านเรื่อง เทพสามฤดู รับบท มาตุลี โดยสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง

 

จุดเริ่มต้นเข้าสู่วงการผู้นำเชียร์กีฬา ย้อนกลับไปในช่วงเริ่มต้นของการเชียร์กีฬาไทยในระดับนานาชาติ “ท้าวดักแด้” เริ่มต้นเส้นทางของเขาในการเชียร์กีฬาในแมทช์แรกของการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยในตอนนั้นเขาเลือกสวมชุดตะกั่วซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเขา และทำให้เขาเริ่มเป็นที่รู้จักในวงการกีฬามากขึ้น

 

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ท้าวดักแด้ได้มีบทบาทเป็นคนนำเชียร์การแข่งขันกีฬาหลายประเภท เช่น ฟุตบอล,วอลเลย์บอล และ ตะกร้อ ด้วยการนำประสบการณ์จากการเป็นผู้นำเชียร์ในกิจกรรมกีฬาสีที่โรงเรียนมาปรับใช้ รวมถึงความรักในกีฬาและความมุ่งมั่นที่เขามีมาตั้งแต่เด็ก

 

ในปี 2008 เมื่อถึงเวลาการแข่งขันเอเชียนบีชเกมส์ ท้าวดักแด้ก็ความทุ่มเทและดิ้นรนหาทุนทรัพย์เพื่อเดินทางไปเข้าร่วมการแข่งขันพร้อมกับทีมเชียร์ของเขา และแม้ว่าเขาจะไม่มีสถานที่พักที่แน่นอน แต่เขาก็ใช้แผนกครัวของบีชเกมส์เป็นที่พักพิงในระหว่างการแข่งขัน

 

ต่อมาในปี 2010 สำหรับเอเชียนเกมส์และเอเชียนพาราเกมส์ ท้าวดักแด้ได้สร้างผลงานที่น่าจดจำด้วยการออกอัลบั้มชุด “สีมัคคา สามัคคี” เพื่อเป็นทุนสำหรับการเดินทางร่วมเชียร์นักกีฬาทีมชาติไทยที่ประเทศจีน

 

นอกจากนี้ เขายังมีส่วนร่วมในการเชียร์นักกีฬาทีมชาติไทยในการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน 2012 ร่วมกับโดโด้ แขนควง ด้วยชุดแต่งกายแบบไทยสมัยโบราณที่เป็นเอกลักษณ์ ตลอดจนมีรูปแบบการเชียร์ที่สนุกสนาน ซึ่งมีส่วนช่วยในการให้กำลังใจต่อนักกีฬาทีมชาติไทย ตลอดจนได้รับความสนใจจากชาวต่างชาติ รวมถึงได้รับการเผยแพร่ผ่านทางสถานีโทรทัศน์เพื่อกีฬาโอลิมปิก หรือโอลิมปิกแชนแนล

 

ท้าวดักแด้ เล่าถึงช่วงแรกของการเชียร์ทีมชาติไทยอย่างเต็มที่ว่า เขาต้องแบกรับค่าใช้จ่ายทั้งหมดด้วยตัวเอง ต้องขายรถและจำนำของใช้เพื่อหารายได้ในการเดินทาง หากเงินไม่พอก็ต้องใช้วิธีประหยัดอย่างถึงที่สุด โดยบ้างครั้งเขาต้องหาที่นอนในวัดไทยในต่างประเทศ หรือนอนที่บ้านของคนไทย หรือแม้แต่ร้านอาหารไทยที่เปิดให้เขาพักชั่วคราว

 

ในบางครั้งที่หาที่พักไม่ได้ ท้าวดักแด้ก็ต้องอาศัยนอนกับพี่น้องนักข่าว ซึ่งมีเหตุการณ์หนึ่งที่เขาไปเชียร์เอเชียนเกมส์ที่เกาหลีใต้ และต้องแอบไปนอนกับนักข่าว ในกรณีที่เตียงไม่พอ เขาจึงต้องหลบไปนอนในตู้เสื้อผ้า โดยใช้หัวซุกเข้าไปในนั้นเพื่อให้พอดีกับพื้นที่

 

นอกจากนี้ เมื่อไปเชียร์การแข่งขันบางครั้งที่อาหารแพงมาก ท้าวดักแด้จะขอแบ่งข้าวจากนักกีฬ หรือ ขนอาหารเช้าจากโรงแรมใส่ย่ามกลับมา ทำให้พนักงานโรงแรมสงสัยว่าอาหารไปไหนหมดอย่างรวดเร็ว เขาทำทุกอย่างที่สามารถประหยัดได้เพื่อให้การเชียร์ดำเนินต่อไป

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไปและเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น ท้าวดักแด้ได้รับการสนับสนุนจากผู้ใหญ่ใจดีที่ช่วยเหลือในเรื่องค่าใช้จ่าย ทำให้การเดินทางไปเชียร์และกิจกรรมต่างๆ เป็นไปได้อย่างราบรื่นมากขึ้น

 

ท้าวดักแด้ ได้เปิดใจอีกว่า ทำไมเขาถึงยังไม่เลิก ทั้งที่ต้องเผชิญกับความลำบากมากมาย ด้วยความที่เขาทำงานเชียร์ทีมชาติไทยมานานกว่า 20 ปีแล้ว เริ่มต้นตั้งแต่ซีเกมส์ที่เชียงใหม่ในช่วงที่เขายังเป็นนักเรียนที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ความฝันของเขาคือการเป็นนักกีฬา แต่เมื่อพบว่าความสามารถไม่ถึง ก็ได้ตัดสินใจเลือกเป็นกองเชียร์ข้างสนามแทน

 

ท้าวดักแด้เล่าต่อไปว่า แม้เขาจะเริ่มจากความตั้งใจเพียงอยากเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนทีมชาติ แต่เมื่อเริ่มทำไปแล้ว เขากลับรู้สึกเหมือนลงจากหลังเสือไม่ได้ ทุกครั้งที่มีการแข่งขันกีฬาของทีมชาติไทย เขาก็จะไปเชียร์ที่นั่นเสมอ ไม่เว้นแม้แต่การแข่งขันกีฬาคนพิการ เขายังได้รับคำชมจากนักกีฬาตาบอดว่า เสียงเชียร์ของเขาช่วยเติมกำลังใจให้กับพวกเขาได้จริงๆ

 

ในปัจจุบัน ท้าวดักแด้ได้รับเกียรติให้ดำรงตำแหน่งกรรมการสมาคมกีฬาคนพิการทางปัญญาแห่งประเทศไทย และเป็นอนุกรรมาธิการการกีฬาวุฒิสภา นี่คือการรับรู้ถึงความทุ่มเทและความมุ่งมั่นของเขาในการสนับสนุนกีฬาทั้งในระดับชาติและระดับพาราลิมปิก

 

ซึ่งจากความรักและความทุ่มเท ทั้งแรงกาย แรงใจ ในการเชียร์นักกีฬาไทยให้ได้รับชัยชนะทุกการแข่งขัน ทำให้นักกีฬาและแฟนกีฬายกให้เขาเป็น ตำนานกองเชียร์ของประเทศไทยไปเรียบร้อยแล้ว

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube