ฟุตซอลโลกไทยเร่งแก้ไขปัญหาหลังอุ่นเฉือนยูเออี 1-0 “สุทิน” ชี้ สภาพพื้นใหม่ส่งผลให้จังหวะขาดๆเกินๆ รอให้ปรับตัวอีกหน่อยพร้อมทั้งเตรียมหาอุ่นเพิ่ม
ความเคลื่อนไหวหลังทีมชาติไทยชุดเพลย์ออฟฟุตซอลโลกโซนเอเชีย ลงสนามอุ่นเครื่องเกับทีมชาติยูเออี ซึ่งทีมไทยชนะไป 1-0
ด้าน สุทิน บัวตูม ผจก.ทีมชาติไทย กล่าวว่า เกมอุ่นเครื่องที่ผ่านมาถือเป็นการทดสอบทีมและลงสนามที่ยูเออีเกมแรกซึ่งเราอาจจะยังไม่เข้าท็เข้าทางทั้งการปรับตัวและสภาพพื้นปาเก้ที่ค่อนข้างใหม่ลื่น บอลไหลเร็วมากจังหวะการผ่านบอลมักจะเกินไป 1 จังหวะ ซึ่งก็จะได้นำไปปรับปรุงแก้ไขต่อไป ซึ่งเราจะเตะเกมแรกกับอิรักในวันที่ 20 พ.ค.นี้ จริงๆก็อยากมีเกมเคาะสนิมแบบนี้อีกสักแมตช์ แต่ในช่วงโควิดก็ไม่ค่อยปลอดภัยนัก การหาทีมอุ่นเครื่องยาก จะมีก็แต่เวียดนาม เลบานอนที่มาแข่งเท่านั้นก็จะพูดคุยกับทีมงานกันอีกครั้งว่าอย่างไร
ส่วนทางด้านการถ่ายทอดสดนั้น ทางทีมก็ประสานกับเอเอฟซีอยู่ว่าทำอย่างไรได้บ้างซึ่งเอเอฟซีอาจจะจัดให้มีการถ่ายทอดสดทางออนไลน์ที่เอเอฟซีมักจะถ่ายผ่านเว็บไซด์แต่คราวนี้จะส่งสัญญานให้ชาติต่างๆที่เป็นเจ้าภาพทั้งสี่ทีมโดยไม่ถ่ายผ่านเอเอฟซีแทน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมเรื่องปัญหาเส้นสนามแข่ง หลังจากที่มีการตรวจและทดสอบสนามแข่งขัน ฟุตซอล เพลย์ออฟ โซนเอเชีย ที่สนาม คอห์ฟาค์คาน อินดอร์ อารีน่า เมืองฟูไจราห์ ยูเออี แล้วนั้น ได้พบว่าสนามแข่งขันดังกล่าวเป็นสนามเอนกประสงค์ซึ่งใช้ในหลายชนิดกีฬา ซึ่งส่งผลให้เกิดเส้นสนามแข่งขันลายตาเป็นอย่างมาก ทำให้ทีมต่างๆได้ขอให้เอเอฟซีแก้ไขปัญหานี้ให้ โดยล่าสุดทางเอเอฟซีแจ้งว่า การปรับพื้นสนามใหม่โดยลบลายเส้นเดิมต้องใช้เงินทั้งสิ้น 240,000 กว่าบาท ต้องหารเฉลี่ยทีมเข้าแข่งขันทั้ง 4 ทีม ตกทีมละ 60,000 กว่าบาท ซึ่งมีโอกาสที่จะร่วมกันแก้ไขเป็นไปได้ยาก ก่อนหน้านี้ ทางอิรักเองก็ตัดสินใจที่จะบริหารสนามเองในแมตช์ที่ตนเองเป็นเจ้าภาพในวันที่ 20 พ.ค. เวียดนาม และเลบานอน ใช้วิธีหารค่าใช้จ่ายร่วมกันในการเช่าสนามและค่าการจัดการต่างๆ อย่างไรก็ดีเส้นสนามฟุตซอลเองที่มีอยู่เดิมก็มีขนาดไม่ได้มาตรฐาน
โปรแกรมการแข่งขัน
วันที่ 20 พ.ค.2564
เวลา 16.00 น. อิรัก พบ ไทย
วันที่ 25 พ.ค.2564
เวลา 18.00 น. ไทย พบ อิรัก
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news