เส้นทาง “อิตาลี” สู่รอบชิงฯ ยูโร2020
ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ “ยูโร 2020” ที่เดินทางมาถึงโค้งสุดท้าย ในรอบชิงชนะเลิศ โดยทีมแรกที่สามารถผ่านเข้ามาได้ เป็น ทีมชาติอิตาลี แม้ก่อนทัวนาเม้นต์ นี้จะเริ่มขึ้น ทีมชาติอิตาลี อาจไม่ได้ถูกยกเป็นเต็ง 1 หรือ เต็ง 2 ในการคว้าแชมป์ โดยบริษัทรับพนันที่ถูกกฎหมายของต่างประเทศ วางให้เป็นถึงเต็ง 7 ร่วมกับ ฮอลแลนด์ เลยทีเดียว ซึ่งอาจเป็นเพราะมีการถ่ายเลือดใหม่ภายในทีม รวมถึงสไตล์การเล่นที่ก่อนหน้านี้เป็นทีมเน้นรับ ซะส่วนใหญ่ รวมถึงทีมอื่นๆที่เป็นตัวเต็งอันดับต้นๆที่คุณภาพนักเตะในเกมรุกดูดุดัน และ เฉียบคม กว่าอิตาลี หลายทีม
วันนี้จึงขอมาเปิดเส้นทาง ทีมชาติอิตาลี กว่าที่จะมาถึงรอบชิงชนะเลิศ ยูโร 2020 ต้องผ่านเสือ สิงห์ กระทิง แรด มาขนาดไหนเริ่มต้นในรอบคัดเลือกที่ ทีมชาติอิตาลี อยู่ในกลุ่ม เจ ร่วมกับ บอสเนีย ,ฟินแลนด์,กรีซ,อาร์เมเนีย และ ลิกเตนสไตน์ ก่อนอิตาลี ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการลงสนาม 10 เกมเก็บชัยได้ทั้งหมด ผ่านเข้ารอบเป็นแชมป์ของกลุ่มพร้อมยังทำไปถึง 37 ประตู และเสียไปเพียง 4 ประตู เป็นรองเพียงเบลเยียม ที่ทำไปได้ 40 ประตู ในรอบคัดเลือก
ขณะในรอบสุดท้าย ทีมชาติอิตาลี อยู่ในกลุ่ม เอ ร่วมกับ ตุรกี,เวลส์ และ สวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งอิตาลี ยังโชว์ฟอร์มได้คงเส้นคงว่า ด้วยการชนะ ตุรกี 3-0 , ชนะ สวิตเซอร์แลนด์ 3-0 , ชนะ เวลส์ 1-0 ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม เอ
ก่อนรอบ 16 ทีมสุดท้ายที่ต้องพบกับ ออสเตรีย แม้ก่อนเกม อิตาลี อาจดูเหนือกว่าแต่ต้องออกเเรงเหนื่อยเล่นถึงช่วง ต่อเวลาพิเศษ 30 นาที หลังในเกมเสมอกันอยู่ 0-0 ก่อนแก้เกมในช่วงต่อเวลา และเป็นฝ่ายชนะ ออสเตรีย ไปได้ 2-1
ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย โคจรมาพบกับตัวเต็งอย่าง เบลเยี่ยม ซึ่งเป็นเกมที่สูสี เปิดแลกกันอย่างสนุก ตั้งแต่ต้นเกม ทว่าอิตาลี เป็นฝ่ายที่เด็ดขาดกว่าเฉือนชนะไป 2-1 ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศมาพบศึกหนัก กับ สเปน
ซึ่งก่อนเกมจากผลงานและชื่อชั้นนักเตะ อิตาลี อาจดูเหนือเล็กน้อย แต่เกมนี้กลายเป็น สเปน ที่ครองบอลเปิดเกมบุกได้มากกว่า แม้อิตาลี รูปเกมที่เป็นรองอาศัยความเด็ดขาด ออกนำไปก่อน ก่อนโดน สเปน มาตามตีเสมอ จึงต้องต่อเวลาพิเศษออกไป 30นาที ก็ยังไม่มีสกอร์เพิ่ม จึงต้องตัดสินผู้ชนะด้วยการยิงจุดโทษและเป็น อิตาลี ที่แม่นกว่าชนะไปได้ด้วยประตูรวม 5-3 ผ่านเข้าชิงชนะเลิศได้สำเร็จ
อย่างไรก็ดี ศึกยูโร หนนี้ ทีมชาติอิตาลี พลิกโฉมจากทีมที่เน้นรับ เป็นทีมที่มีเกมรุกที่ดุดัน และอันตราย ใช้โอกาสไม่เปลือง ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีที่สุดของในการคว้าแชมป์สมัยที่ 2 ในประวัติศาสตร์โดยครั้งแรกต้องย้อนไปถึงปี 1968
สำหรับนัดชิงชนะเลิศของ ศึกยูโร 2020 จะแข่งขันที่สนาม เวมบลีย์ สเตเดี้ยม ประเทศอังกฤษ ในคืนวันที่ 11 กรกฎาคม นี้ เวลา 02.00น. ตามเวลาประเทศไทย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news