อิตาลี เอาชนะ อังกฤษ ในการดวลจุดโทษ 3-2 หลังจากเสมอในเวลา 120 นาที 1-1 ทำให้ คว้าแชมป์ฟุตบอลยูโร 2020 เป็นสมัยที่ 2 ไปครอง
ศึกฟุตบอลยูโร 2020 รอบชิงชนะเลิศ เป็นการพบกันระหว่าง อิตาลี ดวลกับ อังกฤษ โดยลงเล่นกันที่สนามเวมบลีย์ ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
โรแบร์โต้ มันชินี กุนซือของอิตาลี เลือกจัดทัพมาในระบบ 4-3-3 ใช้สามแนวรุกเป็น เฟเดริโก้ เคียซา, ชิโร อิมโมบิเล และ ลอเรนโซ อินซินเญ
ด้านอังกฤษของ แกเร็ธ เซาธ์เกต วางหมากมาในแผน 3-4-3 ด้วยการใช้สามประสานแดนหน้าเป็น เมสัน เมาท์, แฮร์รี เคน และ ราฮีม สเตอร์ลิง
ผลปรากฎว่า ครึ่งแรก อังกฤษ จู่โจมเร็วทันที และได้ประตูออกนำไปก่อน 1-0 ตั้งแต่นาทีที่ 2 จากจังหวะที่ คีแรน ทริปเปียร์ เปิดบอลข้ามฟากให้ ลุค ชอว์ วอลเลย์เข้าไปตุงตาข่ายอย่างงดงาม ก่อนจะจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
ครึ่งหลัง อิตาลี ได้ครองบอลบุกใส่ กระทั่งนาทีที่ 67 อิตาลี ก็ตามตีเสมอเป็นจนได้ 1-1 จากการซัดเผาขนของ เลโอนาร์โด โบนุชชี กองหลังจอมเก๋า
ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีใครทำอะไรกันได้อีกครบ 90 นาที อิตาลี เสมอ อังกฤษ 1-1 ต้องไปลุ้นกันต่อในช่วงต่อเวลาพิเศษ
ช่วงต่อเวลาพิเศษ อังกฤษ พยายามเปิดเกมรุกมากขึ้น ขณะที่ อิตาลี ก็สวนขึ้นมาเป็นระยะ แต่สุดท้ายก็ไม่มีสกอร์เกิดขึ้นอีกครบ 120 นาที อิตาลี เสมอ อังกฤษ 1-1
ต้องไปหาผู้ชนะด้วยการดวลจุดโทษ ผลปรากฏว่า อิตาลี ยิงแม่นกว่าเอาชนะไปได้ 3-2 ผงาดคว้าแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปไปครองเป็นสมัยที่ 2
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news